อากาศอบอุ่น แสงแดดสดใส และมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด
พื้นที่รอบๆ ทะเลในเซโตะที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทะเลในที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นนั้น เต็มไปด้วยสภาพอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียนและทิวทัศน์ของท้องทะเลอันตระการตา อีกทั้งยังมีมรดกทางวัฒนธรรมและสถานที่ทางประวัติศาสตร์มากมาย ทำให้เป็นพื้นที่ที่คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับทั้งความรู้สึกแบบรีสอร์ทตากอากาศและสถานที่ท่องเที่ยวได้พร้อมกัน ในบทความนี้ เราจะมาแนะนำเสน่ห์ของภูมิภาคเซโตะอุจิ สถานที่ท่องเที่ยว และกิจกรรมแนะนำในช่วงฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูร้อนกันค่ะ
ทะเลในเซโตะอยู่ที่ไหน พื้นที่เซโตะอุจิคืออะไร?
ทะเลในเซฌตะ (瀬戸内海 / Seto Naikai) เป็นทะเลในหรือทะเลที่ถูกล้อมรอบไปด้วยแผ่นดินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ถูกล้อมด้วยเกาะฮอนชู เกาะชิโกกุ และเกาะคิวชู มีเนื้อที่ 23,203 ตารางกิโลเมตร ความยาวชายฝั่งทะเลรวมประมาณ 7,230 กิโลเมตร แถมภายในพื้นที่ทะเลมีเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 700 เกาะด้วยค่ะ
ภูมิภาคเซโตะอุจิหมายถึงบริเวณชายฝั่งทะเลของทะเลในเซโตะ และโดยทั่วไปหมายถึงภูมิภาคที่รวมภูมิภาคบันชูของจังหวัดเฮียวโงะ จังหวัดโอคายาม่า จังหวัดฮิโรชิม่า จังหวัดยามากุจิ จังหวัดคากาว่า และจังหวัดเอฮิเมะ และในบางกรณีอาจรวมถึงเกาะอาวาจิ จังหวัดโทคุชิมะ พื้นที่ทางตอนเหนือของจังหวัดฟุกุโอกะ และจังหวัดโออิตะด้วยค่ะ
สภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำฝนของภูมิภาคเซโตะอุจิเป็นยังไง?
พื้นที่ชายฝั่งทะเลของทะเลในเซโตะที่ล้อมรอบด้วยภูเขาตั้งแต่เหนือจรดใต้ ขึ้นชื่อว่ามีอากาศอบอุ่นและฝนตกน้อย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 16 องศาเซลเซียส และปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยทั้งปีประมาณ 1,000 ถึง 1,600 มม. นอกจากนี้ยังมีสภาพอากาศที่แจ่มใสแดดจ้าตลอดทั้งปี และภูเขาทางฝั่งชิโกกุในฤดูร้อนและภูเขาฝั่งฮอนชู (ภูมิภาคชูโกคุ) ในฤดูหนาวจะปิดกั้นลมมรสุมและทำให้ฝนตกยากกว่าค่ะ สภาพอากาศที่เลวร้ายนั้นเป็นศัตรูตัวฉกาจต่อการเที่ยว แต่สำหรับในพื้นที่เซโตะอุจินั้น การบรรจุกิจกรรมกลางแจ้งที่มักจะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศได้ง่ายลงในแผนการเดินทางของคุณก็เป็นเรื่องง่าย เพราะแทบจะไม่มีผลตกเลยนั่นเองค่ะ
เสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวในภูมิภาคเซโตะอุจิคือ?
ภูมิภาคเซโตะอุจิกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในฐานะจุดหมายสำหรับท่องเที่ยว จากนี้ไป เราจะแนะนำเสน่ห์ของสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ที่แนะนำสำหรับการเที่ยวชมในพื้นที่เซโตะอุจิกันค่ะ
เสน่ห์อย่างที่ 1: อาหารทะเลและอาหารอร่อยมากมาย!
อาหารทะเล
เมื่อพูดถึงเสน่ห์ของทะเลในเซโตะ สิ่งแรกที่นึกถึงคืออาหารทะเลที่อุดมสมบูรณ์
ความอร่อยของอาหารทะเลที่นี่ก็ขึ้นชื่อเป็นพิเศษค่ะ โดยมีหลายทฤษฏี เช่นเพราะในทะเลในเซโตะมีแนวน้ำตื้นมากมายและแพลงก์ตอนก็เติบโตกันง่าย เพราะว่าน้ำในแม่น้ำที่มีแร่ธาตุที่ถูกชะล้างพัดพามาจากภูเขาไหลเข้ามาจากทุกด้าน และเพราะปลาแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว จึงมีเนื้อแน่นและรสชาติอร่อยเป็นต้นค่ะ
นอกจากนี้ อุณหภูมิของน้ำจะเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับปลาหลากหลายชนิดได้ตลอดทั้งปี ตัวอย่างเช่น ปลาซาวาระ (ทูสเปน) และปลาอิคานาโกะ (แซนด์แลนซ์) ที่จับได้ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปลาคุโรได (กระพงดำ) ที่ขาดไม่ได้สำหรับอาหารท้องถิ่น ปลาฮามาจิ (หางเหลือง) ที่เพาะเลี้ยงกันมากมาย เช่น โอลีฟฮามาจิ และปลามานะงัตสึโอะ (จะละะเม็ดขาว) ที่อร่อยเมื่อทำเป็นซาซิมิหรือต้ม นอกจากนี้ จังหวัดฮิโรชิม่ามีการผลิตหอยนางรมสูงสุดในญี่ปุ่น! หอยนางรมย่าง หอยนางรมทอด กราแตง ฯลฯ ที่ทำจากหอยนางรมขนาดใหญ่ ก็เหมาะสำหรับการรับประทานและเป็นอาหารขึ้นชื่อของเซโตะอุจิค่ะ
แถมยังเป็นที่ทราบกันดีว่าในภูมิภาคเซโตะอุจิซึ่งมีสภาพอากาศที่มีแดดจัดสูงและอบอุ่นนั้นได้มีการปลูกผลไม้ตระกูลส้มกันมาก มีประมาณ 49 สายพันธุ์เลยค่ะ!
โดยเฉพาะส้มมิคังและอิโยคังจากจังหวัดเอฮิเมะและมะนาวจากจังหวัดฮิโรชิม่านั้นก็มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศค่ะ และมีการผลิตผลิตภัณฑ์แปรรูปมากมาย เช่น น้ำผลไม้ แยม ขนมหวาน และเครื่องปรุงรสเป็นต้นค่ะ เหมาะสำหรับเป็นของฝากของที่ระลึกการเดินทางเลยเชียว!
เสน่ห์อย่างที่ 2: มีจุดที่สวยงามมากมายในทะเลที่น่าถ่ายไปลง SNS!
ถนน Angel Road แห่งเกาะโชโดชิมะ
ถนน Angel Road (エンジェルロード) เป็นถนนแนวสันทรายที่โผล่ขึ้นมาจากทะเลในเวลาน้ำลงวันละสองครั้ง เป็นจุดที่งดงามที่เป็นตัวแทนของโชโดชิมะ เวลาน้ำขึ้นคุณจะเห็นแต่น้ำทะเล แต่เมื่อน้ำลงจะมีถนนสีขาวปรากฏขึ้นท่ามกลางท้องทะเลอันกว้างใหญ่! ความแตกต่างที่โรแมนติกระหว่างสีฟ้าของท้องทะเลและท้องฟ้าและสีขาวของหาดทรายยังมีชื่อเสียงในฐานะจุดนำโชคด้านความรัก และยังถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์อีกด้วยค่ะ
โชโดชิมะเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดคางาวะ จากท่าเรือทาคามัตสึในจังหวัดโอคายาม่า คุณสามารถไปถึงได้ในเวลาประมาณ 35 นาทีโดยเรือความเร็วสูง และประมาณ 70 นาทีโดยเรือเฟอร์รี่
สะพานใหญ่เซโตะที่มองเห็นจากภูเขาวาชูซัง
สะพานใหญ่เซโตะ หรือ เซโตะโอฮาชิ (瀬戸大橋 / Seto Ohashi หรือ the Great Seto Bridge) เปิดในปี ค.ศ. 1988 เป็นสะพานระหว่างเกาะฮอนชูและคิวชูที่เชื่อมจังหวัดโอคายาม่าและคากาว่าเข้าหากัน ชื่อเซโตะโอฮาชิ เป็นคำเรียกรวมกันของสะพานทั้ง 6 แห่งที่มีความยาวรวม 9.4 กม. ข้ามช่องแคบ มีโครงสร้างเป็น 2 ชั้น โดยมีมอเตอร์เวย์อยู่ด้านบนและทางรถไฟอยู่ด้านล่าง ทำให้เป็นหนึ่งในสะพานมอเตอร์เวย์และทางรถไฟที่ใหญ่ระดับที่สุดในโลก ภูเขาวาชูซัง (鷲羽山 / Washuzan) ในอำเภอคุราชิกิ จังหวัดโอคายาม่า ก็เป็นจุดแนะนำสำหรับการชมสะพานใหญ่เซโตะนี้ค่ะ
สะพานใหญ่เซโตะซึ่งทอดยาวเหนือทะเลกว้างใหญ่ของทะเลในเซโตะ และเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 50 เกาะที่กระจายอยู่ทั่วผืนทะเล คุณสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันตระการตาของทะเลและความงามของหมู่เกาะแห่งเซโตะอุจิได้ และยังเป็นที่นิยมในฐานะจุดเซลฟี่อีกด้วย โดยเฉพาะความงดงามของทิวทัศน์ยามเย็นนั้นก็ยอดเยี่ยมมากค่ะ!
สะพานใหญ๋เซโตะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน "100 จุดชมพระอาทิตย์ตกที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น" เดินทางประมาณ 30 นาทีโดยรถบัสวงเวียนจากสถานี JR Kojima หรือประมาณ 5 นาทีโดยรถยนต์จาก Kojima Interchange
น้ำวนแห่งนารูโตะ
น้ำวนแห่งนารุโตะเป็น "ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ" ที่เกิดขึ้นจากกระแสน้ำเชี่ยวกรากอันเกิดจากความต่างของระดับน้ำทะเลระหว่างทะเลเซโตะในและช่องแคบคิอิ มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุด 20 เมตรในช่วงกระแสน้ำในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง และว่ากันว่าใหญ่ที่สุดในโลก
หากคุณต้องการชมกระแสน้ำวนอย่างใกล้ชิด เราขอแนะนำทางเดินเล่นทางทะเล "Uzu no Michi" ที่สร้างขึ้นใต้ทางรถของสะพานโอนารุโตะค่ะ! หากคุณมองผ่านพื้นกระจกจากความสูง 45 เมตรเหนือกระแสน้ำวน คุณจะสัมผัสได้ถึงความตื่นเต้นราวกับว่าคุณกำลังถูกดูดเข้าไปในกระแสน้ำวนเลยค่ะ
หากคุณต้องการเห็นกระแสน้ำวนจากทะเล เราขอแนะนำให้คุณล่องเรือในเรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่หรือเรือท้องแบนขนาดเล็กค่ะ (* ต้องจองล่วงหน้า)
อย่างไรก็ตาม คุณจะไม่เห็นน้ำวนในช่วงเวลาที่ไม่มีน้ำขึ้นน้ำลง ดังนั้นกรุณาตรวจสอบเวลาที่ดีที่สุดจากตารางน้ำขึ้นน้ำลงก่อนออกเดินทางนะคะ
หากต้องการเข้าถึงถนนน้ำวน ให้ขึ้นรถบัสท้องถิ่นจากสถานี JR Naruto ในจังหวัดโทคุชิมะ และลงที่ป้าย Naruto Park แล้วเดินอีก 5 นาทีค่ะ
เสน่ห์อย่างที่ 3: สามารถเพลิดเพลินกับการเยี่ยมชมมรดกโลกและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่เป็นแบบฉบับของญี่ปุ่นได้ด้วย!
เมื่อพูดถึงไฮไลท์ของการเดินทางไปญี่ปุ่น ทิวทัศน์แบบญี่ปุ่นและทัวร์มรดกโลกก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ค่ะ ย่านประวัติศาสตร์ Kurashiki Bikan ซึ่งอยู่ห่างจากสถานี JR Kurashiki โดยใช้เวลาเดิน 10 ถึง 15 นาที เป็นจุดยอดนิยมสำหรับทิวทัศน์บ้านเรือนสไตล์ญี่ปุ่นที่มีต้นวิลโลว์และอาคารคลังเป็นของที่เรียกว่าคุรายาชิกิเรียงรายตามริมแม่น้ำ นอกจากนี้ยังถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่อนุรักษ์อาคารแบบดั้งเดิมที่สำคัญของประเทศอีกด้วย
ขอแนะนำให้เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพโดยมีอาคารคลังคุราชิกิที่มีกำแพงสีขาวและแม่น้ำคุราชิกิซึ่งมีเรือล่องแม่น้ำจอดอยู่เป็นแบคกราวด์ และการเดินกินค่ะ นอกจากนี้ โอโนะมิจิ ซึ่งเป็นประตูสู่ฝั่งฮอนชูของชิมานามิไคโดะ ก็เป็นพื้นที่ที่ได้รับความสนใจในฐานะเมืองย้อนยุคค่ะ เมืองนี้เป็นเหมือนเขาวงกตที่เต็มไปด้วยเนินลาดชันและขั้นบันไดหินที่รถเข้าไม่ได้ค่ะ! ในตรอกซอกซอยมีร้านกาแฟเก๋ ๆ มากมาย ซึ่งได้รับการปรับปรุงมาจากทั้งโรงอาบน้ำสาธารณะและบ้านโบราณค่ะ แถมคุณจะพบกับแมวมากมายตลอดทางด้วยค่ะ
นอกจากนี้ คุณยังสามารถเยี่ยมชมแหล่งมรดกโลกและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างๆ เช่น โดมระเบิดปรมาณูในอำเภอฮิโรชิม่า จังหวัดฮิโรชิม่า และศาลเจ้าอิสึกุชิมะในอำเภอฮัตสึไคจิ จังหวัดฮิโรชิม่า เป็นต้นค่ะ
เสน่ห์อย่างที่ 4: กิจกรรมและจุดศิลปะก็ยังเป็นที่กล่าวถึงกันมาก!
ทะเลในเซโตะซึ่งมีวันที่แดดจ้าหลายวันและคลื่นค่อนข้างสงบ ขึ้นชื่อสำหรับมือใหม่ที่จะเพลิดเพลินกับกีฬาทางน้ำได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมทางทะเล เช่น พายเรือคายัค พายเรือแคนู และ SUP ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับธรรมชาติอันงดงามในแบบพาโนรามา 360 องศา และการดำน้ำตื้นและดำน้ำที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับใต้น้ำที่โปร่งใสสูงไดค่ะ
นอกจากนี้ Shimanami Cycling ซึ่งเป็นการปั่นจักรยานข้ามชิมานามิไคโด และแกลมปิ้งซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับบาร์บีคิวสุดหรูพร้อมเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันตระการตาของทะเล ก็ได้รับความสนใจมากเช่นกันค่ะ
นอกจากนี้ยังมีจุดศิลปะมากมายกระจายอยู่ทั่วเซโตะอุจิ และมีพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับศิลปะร่วมสมัยและศิลปะกลางแจ้งกลางแจ้ง นอกจากเกาะนาโอชิมะที่มีชื่อเสียงในจังหวัดคากาว่าแล้ว เกาะอิคุจิจิมะและเกาะโอมิชิมะซึ่งเป็นทางผ่านของชิมานามิไคโดยังมีชื่อเสียงอีกด้วย
ตามที่เราได้แนะนำไปแล้ว ภูมิภาคเซโตะอุจิi มีพื้นที่กว้างและเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยว จึงมีการเดินทางมากมายที่ครอบคลุมหลายจังหวัด นอกจากรถไฟแล้ว ยังมีอีกหลาย ๆ อย่างเช่นเดินทางโดยเรือค่ะ ไปเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ กันโดยเผื่อเวลาไว้สำหรับเดินทางและพักแรมเยอะ ๆ นะคะ!
Comments