มิคังเป็นส้มญี่ปุ่นที่เกิดจากส้มซัตสึมะและส้มแมนดาริน มีรสหวาน ขนาดเล็ก และปลูกกันมากในจังหวัดเอฮิเมะ สามารถไปลองเก็บส้ม รับประทานเป็นของหวานและของว่าง และคุณยังสามารถรับน้ำผลไม้สดจากก๊อกได้อีกด้วย! ไม่ว่าคุณจะเคยลองมาก่อนหรือเพิ่งเคยสัมผัสกับโลกอันแสนเอร็ดอร่อยของมิคัง การไปเก็บด้วยตัวเองก็เป็นการใช้เวลายามบ่ายที่น่าพึงพอใจและสนุกสนานในชนบทของญี่ปุ่นค่ะ
ทำไมเอฮิเมะถึงดังเรื่องมิคัง?
จังหวัดเอฮิเมะผลิตผลไม้ตระกูลส้มได้มากกว่า 200,000 ตันต่อปี และอุทิศตนส่งเสริมความอร่อยของผลไม้ในภูมิภาคชนิดนี้ จังหวัดมีการผลิตผลไม้จำพวกส้มมามากกว่า 100 ปี โดยปลูกผลไม้ตระกูลส้มมากกว่า 40 สายพันธุ์ (มากที่สุดในญี่ปุ่น) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลไม้ตระกูลส้มมิคัง เมื่อคุณเยี่ยมชมเอฮิเมะ ก็จะพบมิคังอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทั้งวางจำหน่ายบนแผงขายริมถนน แจกโดยคนขับแท็กซี่ใจดี จนถึงผสมอยู่ในอาหารและของหวาน หมู่เกาะในเอฮิเมะมีความสวยงามและเงียบสงบ - เป็นสถานที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนไปกับผลไม้รสเปรี้ยวที่สดชื่นค่ะ
ผลไม้ตระกูลส้มและสายพันธุ์มิคังของเอฮิเมะและช่วงเวลาที่เหมาะแก่การรับประทาน
เอฮิเมะมีผลไม้ตระกูลส้มหลัก ๆ อยู่ 11 สายพันธุ์ให้เพลิดเพลิน เติบโตตลอดทั้งปี บางสายพันธุ์เติบโตตามธรรมชาติและบางสายพันธุ์มาจากการเพาะพันธุ์โดยเกษตรกรที่ผสมผลไม้ตระกูลส้มต่าง ๆ เข้าด้วยกัน ทำให้เกิดเป็นลูกผสมที่มีคุณภาพดีเยี่ยม แม้ว่าฤดูหลักในการเก็บเกี่ยววางขายคือเดือนตุลาคมถึงมกราคม แต่เทคนิคเรือนกระจกก็ทำให้กลายเป็นผลไม้ที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี
- Iyokan: Iyokan เป็นสายพันธุ์ที่มีขยาดใหญ่เป็นพิเศษ มีรสคมชัดและชุ่มฉ่ำ
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่มกราคมถึงมีนาคม
- Setoka: เพาะพันธุ์มาอย่างพิถีพิถัน เป็นสายพันธุ์ที่เนื้อฉ่ำนี้มีเปลือกบางและมีกลิ่นหอม
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงต้นเดือนเมษายน
- Kiyomi: ลูกผสมระหว่างส้มมิคังและส้มธรรมดา และเป็นพ่อพันธุ์ของสายพันธุ์ใหม่ ๆ มากมาย Kiyomi มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มข้น
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม
- Kawachi Bankan: สายพันธุ์ที่หวานและสีซีดนี้มีชื่อเล่นว่าส้มโอญี่ปุ่น
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกลางเดือนมิถุนายน
- Ponkan: รสหวานและเข้มข้น ส้มขนาดเล็กนี้มีกลิ่นหอมมาก
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม
- Ehime Kashi No.28: พันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิมที่มีเปลือกบางและเนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมกราคม
- Kara/Natsumi: ส้มที่ใช้เวลาสุกนานกว่าปกตินี้จะหวานเป็นพิเศษ
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่กลางเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม
- Unshu Mikan: นี่เป็นสายพันธุ์มาตราฐานของมิคัง รสชาติคลาสสิกและมีขนาดเล็ก
- ฤดูกาลรับประทาน: ลตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงมีนาคมของปีถัดไป
- Shiranui: ชินานุอิมีความสมดุลระหว่างความหวานและเปรี้ยวที่ตรงตามอุดมคติ ทำให้เป็นผลไม้ที่ให้ความสดชื่นมาก
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคมถึงกลางเดือนพฤษภาคม
- Harehime: ผลไม้ชนิดนี้นี้มีกลิ่นแบบส้มและความหวานแบบมิคังในสายพันธุ์เดียว
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมกราคม
- Kanpei / Ehime Queen Splash: ผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องเปลือกบาง เต็มไปด้วยเนื้อฉ่ำและเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมของเอฮิเมะ
- ฤดูกาลรับประทาน: ตั้งแต่มกราคมถึงมีนาคม
สถานที่สำหรับไปเก็บมิคังในเอฮิเมะ
มีฟาร์มหลายแห่งกระจายอยู่ทั่วเกาะเอฮิเมะที่ให้ตุณไปลองเก็บมิคังดูได้ คุณสามารถลองจากพันธุ์ต่างๆ ได้หลากหลายขึ้นอยู่กับฤดูกาล โดยมี 11 พันธุ์หลักให้เลือก ฟาร์มหลายแห่งจะให้คุณนำมิคังติดมือกลับบ้านไปจำนวนหนึ่ง เพื่อไว้ลองรับประทานหรือนำเสนอเป็นของขวัญค่ะ
Okano Farm เกาะอิวางิ
Okano Farm ดำเนินการโดย OKANO Hideaki และ Kae ซึ่งเป็นเกษตรกรรุ่นที่สองบนเกาะอิวางิ เป็นสวรรค์ของผลไม้รสเปรี้ยว เกาะนี้ขึ้นชื่อในเรื่องมะนาวเขียว แต่ก็มีมิคังหลากหลายให้เพลิดเพลินด้วยฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ยาวนานน่าประทับใจ ทั้งคู่จะสอนวิธีเก็บมิคังให้ดีที่สุดให้ โดยมีเหล่าไก่ในฟาร์มตามคุ้ยเขี่ยจินดินอยู่รอบ ๆ เท้าของคุณในระหว่างที่คุณทำกิจกรรม ฟาร์มใช้วิธีการเพาะปลูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยไม่มีการเคลือบแว็กซ์หรือใส่สารกันบูด จนได้รับการรับรองในระบบ Ehime Eco-Farmer ฟาร์มแห่งนี้ปลูกมิคังชนิดที่ออกผลเร็วผละออกผลช้า ซึ่งก็หมายความว่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บมิคังได้ตลอดทั้งปี รวมถึงชนิด okute mikan (มิคังออกผลช้าที่สุด) ที่เก็บได้ตั้งแต่เดือนธันวาคมไปค่ะ!
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: Okano Farm (岡野農園)
- ที่ตั้ง: 4832, Iwagi, Kamijima-cho, Ochi-gun, Ehime
- ตำแหน่ง: ฟาร์มตั้งอยู่ทางเหนือของเกาะอิวางิ ใกล้กับท่าเรือเฟอร์รี่ Okogi
- การเดินทาง:
- จากเกาะอิคุจิ ขึ้นเรือเฟอร์รี่ Sankoh Line จากท่าเรือข้ามฟาก Sunoe เพื่อไปยังท่าเรือข้ามฟาก Okogi บนเกาะอิวางิ
- จากเกาะอิคินะ ขับรถข้ามสะพานอิวางิเพื่อไปยังเกาะอิวางิ
- ฤดูเก็บเกี่ยว: ตุลาคมถึงมีนาคม 08:00 - 16:30 น.
- ราคา: 1,500 เยนต่อคน ราคารวมนำมิคังกลับบ้าน
Tomoura Garden
Tomoura Garden ให้คุณเก็บมิคังพร้อมชมวิวทะเลและบรรยากาศของเกาะที่สงบเงียบ เนื่องจากมิคังเติบโตบนเนินลาดชัน มิคังที่นี่จึงมีรสหวานและกลิ่นเปรี้ยว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเก็บสายพันธุ์ Harehime ในเดือนธันวาคม Dekopon ในเดือนมกราคม และ Amanatsu Mikan ในเดือนกุมภาพันธ์ ไม่มีการใช้สารกำจัดศัตรูพืช ดังนั้นผู้ที่ชอบผลไม้ออร์แกนิกก็สามารถเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ที่นี่
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: Tomoura Garden (友浦園芸)
- ที่ตั้ง: 282 Miyakubo-cho Tomoura, Imabari-shi, Ehime
- ตำแหน่ง: ฟาร์มนี้ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกของเกาะโอชิมะ
- การเดินทาง: ฟาร์มแห่งนี้อยู่ห่างจากทงแยกทางด่วน E76 ของทางด่วน Nishi-Seto บนเกาะโอชิมะโดยการขับรถหรือปั่นจักรยานเพียงไม่นาน
- ฤดูเก็บเกี่ยว: ตลอดทั้งปี - ต้องจองล่วงหน้า 3 วัน
- ราคา: 1,200 สำหรับสายพันธุ์ Unshu และ 1,500 เยนสำหรับสายพันธุ์อื่นๆ
Minami Shikoku Farm
ตั้งอยู่บนพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของเกาะชิโกกุภายในจังหวัดเอฮิเมะ ฟาร์มที่สวยงามแห่งนี้เหมาะสำหรับผู้ที่แสวงหาประสบการณ์การเก็บผลไม้บนพื้นที่ที่มีเนินเขาน้อยลง ต้นไม้เหล่านี้ปลูกบนพื้นราบ ซึ่งหมายความว่าผู้ที่มีปัญหาในการเคลื่อนไหวหรือครอบครัวที่มีเด็กเล็กที่ใช้รถเข็นก็สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเก็บผลไม้โดยไม่ต้องเผชิญความยากลำบากของเนินเขาค่ะ ผลไม้มีให้เก็บในช่วงเวลาสั้น ๆ ขึ้นอยู่กับพันธุ์ที่แตกต่างกันไป แต่สามารถติดต่อฟาร์มทางอีเมลเพื่อตรวจสอบล่วงหน้าได้ ด้วยทิวทัศน์ของทะเลอุวะและกลิ่นหอมสดชื่นของมิคัง การเก็บผลไม้ที่นี่จึงเป็นประสบการณ์ที่สดชื่นอย่างแท้จริง ผู้เข้าชมสามารถเลือกเพียงแค่เก็บมิคังหรือเลือกและนำมิคังมากถึง 3 กก. กลับบ้านไปรับประทานในภายหลังก็ยังได้ค่ะ
ข้อมูลสถานที่
- ชื่อสถานที่: Minami Shikoku Farm (南四国ファーム)
- ที่ตั้ง: 612-1 Okimura, Yoshida-cho, Uwajima-shi, Ehime
- ตำแหน่ง: ฟาร์มตั้งอยู่ในอำเภออุวาจิมะ บนชายฝั่งตะวันตกของเอฮิเมะ
- การเดินทาง: ฟาร์มแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยรถยนต์ แต่ยังสามารถเดินเพียง 15 นาทีจากสถานี Tachima บนสาย JR Yosan ได้ด้วย
- ฤดูเก็บเกี่ยว: กลางเดือนตุลาคมถึงปลายเดือนพฤศจิกายน (09:00 - 16:00 น.)
- ราคา:
- ผู้ใหญ่ 660 เยน หรือ 1,100 เยน ถ้าจะนำมิคัง 3 กก. กลับบ้านด้วย
- เด็ก: 440 เยน หรือ 770 เยน ถ้าจะนำมิคัง 3 กก. กลับบ้านด้วย
การเดินทางไปยังเอฮิเมะ
เอฮิเมะตั้งอยู่บนเกาะชิโกกุ และสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยทางถนนและรถไฟ เนื่องจากเชื่อมต่อกับเกาะฮอนชูหลักของญี่ปุ่นด้วยแนวสะพานต่อเนื่อง นอกจากส่วนแผ่นดินใหญ่บนเกาะชิโกกุของเอฮิเมะแล้ว จังหวัดยังประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวนหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมในการสำรวจโดยจักรยานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางข้ามทะเลชิมามามิไคโดะ (สามารถขับรถข้ามสะพานได้ด้วย) หมู่เกาะเหล่านี้ไม่มีเส้นทางรถไฟแต่เชื่อมต่อกันด้วยถนนและสะพานหรือบริการเรือข้ามฟากในท้องถิ่น
จากโอซาก้า นักท่องเที่ยวสามารถบินจากสนามบินอิตามิของโอซาก้าไปยังมัตสึยามะ ซึ่งเป็นอำเภอเมืองของเอฮิเมะได้ในเวลาเพียง 50 นาที จากที่นั่น คุณสามารถสำรวจจังหวัดได้โดยรถไฟบนแผ่นดินใหญ่ของเกาะชิโกกุ หรือโดยจักรยาน รถยนต์ และเรือข้ามฟากไปยังเกาะย่อยที่เชื่อมต่อถึงกัน เส้นทางโดยรถไฟใช้เวลาไม่ถึง 4 ชั่วโมง ในราคา 10,600 เยน รวมรถไฟชินคันเซ็นไปโอคายามะและรถด่วนพิเศษ Shiokaze ไปยังมัตสึยามะ รถบัสทางหลวงวิ่งระหว่างสองเมือง โดยให้บริการรถนอนข้ามคืนโดยออกเดินทางเวลาประมาณ 23.00 น. และมาถึงเวลาประมาณ 06.00 น. มีราคาระหว่าง 5,000-7,000 เยน
จากฮิโรชิม่า การเดินทางโดยรถไฟใช้เวลาประมาณ 3.5 ชั่วโมงและมีค่าใช้จ่ายเพียง 10,000 เยนสำหรับที่นั่งแบบไม่สำรองที่นั่ง รวมถึงรถไฟชินคันเซ็นจากฮิโรชิมะไปยังโอคายามะ และรถไฟด่วนพิเศษ Shiokaze ไปยังมัตสึยามะ นอกจากนี้ยังมีรถบัสทางหลวงวิ่งระหว่างฮิโรชิม่าและอิมาบาริในเอฮิเมะผ่านเส้นทางข้ามทะเลชิมานามิไคโดะ โดยใช้เวลาประมาณสามชั่วโมงและมีราคาระหว่าง 2,600 ถึง 3,800 เยนขึ้นอยู่กับวันและฤดูกาล จากอิมาบาริ คุณสามารถโดยสารรถไฟหรือรถบัสไปยังมัตสึยามะด้วยราคาประมาณ 1,000 เยน และใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง โดยรถไฟจะถูกกว่าเล็กน้อยและเร็วกว่ารถบัส
Comments