ไปตระเวนชมวิวสุดอลังการกัน! จุดชมทิวทัศน์หิมะในภูมิภาคโทโฮคุ 4 แห่งที่เราคัดสรรมา

ญี่ปุ่นซึ่งมีรูปทรงโค้งมนยาวในแนวเหนือใต้ออกตก มีทิวทัศน์ที่สวยงามตลอดสี่ฤดูกาล และเหนือสิ่งอื่นใด แม้ว่าภูมิภาคโทโฮคุจะมีภาพลักษณ์ของความหนาวเย็นที่รุนแรงในฤดูหนาว แต่ทิวทัศน์อันงดงามของหิมะและโลกแห่งจินตนาการก็กำลังรอคุณอยู่! เราจะพาคุณไปชมทิวทัศน์ฤดูหนาวอันยอดเยี่ยม 4 แห่งในภูมิภาคโทโฮคุ ไปชมทัศนียภาพสุดตระการตาที่าดูได้เฉพาะเวลานี้เท่านั้นกัน

1. ปีศาจน้ำแข็ง (ป่าต้นไม้น้ำแข็ง) แห่งสะโอ (จังหวัดยามากาตะ)

ภูเขาสะโอซึ่งตั้งอยู่เหนือสะโอออนเซ็นในจังหวัดยามากาตะ เป็นภูเขาที่มีชื่อเสียงสำหรับการเพลิดเพลินกับต้นไม้น้ำแข็งที่สวยงาม ในฤดูหนาวอันรุนแรงตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์ ป่าดึกดำบรรพ์ของต้นสนอาโอโมริโทโดมัตสึ (Abies mariesii) ซึ่งทอดยาวจากระดับความสูง 1,500 เมตรขึ้นไปบนยอดเขา จะกลายร่างเป็นสัตว์ประหลาดน้ำแข็งกัน

ประมาณเดือนธันวาคม มรสุมอากาศหนาวที่พัดมาจากไซบีเรียจะพัดมาถึงเทือกเขาสะโอ ประกอบกับมีเมฆที่มีมวลไอน้ำที่เย็นจัดปริมาณมากจากทะเลญี่ปุ่น ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น เมื่อตกกระทบลงบนต้นสนอาโอโมริโทโดมัตสึ มวลไอน้ำก็จะแข็งตัวและปกคลุมไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ แล้วพัฒนาเป็นจับตัวเป็นกลุ่มแผ่ไปทางด้านที่ลมพัดมาและเติบโตเป็นต้นไม้น้ำแข็งขนาดใหญ่

ทิวทัศน์ของความงามของประติมากรรมทางธรรมชาติในช่วงกลางฤดูหนาวที่เหล่าสัตว์ประหลาดสีขาวบริสุทธิ์ออกมาพลุกพล่านเต็มภูเขาหิมะก็เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมเลย! นอกจากนี้ ต้นไม้น้ำแข็งที่เห็นภายใต้แสงไฟส่องสว่างที่จัดขึ้นในเวลากลางคืนก็เป็นอีกโลกหนึ่งที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับสัตว์ประหลาดเหล่านี้จะออกก้าวเดินกันในความมืดเลย "การส่องไฟประดับต้นไม้น้ำแข็ง" จัดขึ้นตั้งแต่เวลา 17:00 น. - 21:00 น.

ลานสกีสะโอออนเซ็นที่ซึ่งคุณสามารถเห็นสัตว์ประหลาดน้ำแข็งดังกล่าวได้นั้น เป็นลานสกีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในญี่ปุ่น โดยมีพื้นที่ที่ใหญ่ที่สุดในโทโฮคุ มีองค์ประกอบมากมายให้คุณได้เพลิดเพลินด้วย เช่น ลานสกี น้ำพุร้อน และกระเช้าลอยฟ้าที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับหิมะผงละเอียดพาวเดอร์สโนว์ได้

ที่ลานสกี คุณสามารถไถลไปพลางชมต้นไม้ไปพลางได้ และจากกระเช้าลอยฟ้า คุณสามารถเพลิดเพลินกับป่าต้นไม้น้ำแข็งที่แผ่กว้างอยู่ด้านล่างคุณได้ แม้ว่าคุณจะไม่เคยเล่นสกีหรือสโนว์บอร์ดมาก่อน คุณก็สามารถใช้กระเช้าลอยฟ้าเพื่อชมป่าต้นไม้หิมะนี้ได้ นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารบนมวิวที่มองเห็นทิวทัศน์ของต้นไม้น้ำแข็งได้ด้วย ลองไปชมทัศนียภาพอันตระการตาของป่าต้นไม้น้ำแข็งซึ่งเลอค่าและดูทรงพลังมากระดับโลกกันดูสักหน่อยมั้ย

การเดินทางไปยังป่าต้นไม้น้ำแข็งในสะโอ

• ประมาณ 40 นาทีโดยรถบัสจากสถานี JR Yamagata กรือประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีโดยรถบัสทางด่วนจากสถานี Sendai
• เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานีขนส่ง Zao Onsen Bus Terminal

ข้อมูลสถานที่

• ชื่อสถานที่: กระเช้าลอยฟ้าสะโอ (蔵王ロープウェイ / Zao Ropeway)
• เวลาทำการ: 8:30-17:00 น. (เส้นเชิงเขา) 8:45-16:45 น. (เส้นยอดเขา)
• ราคา: ผู้ใหญ่: 1 สาย 800 เยน 2 สาย 1,500 เยน ไปกลับ 2 สาย 3,000 เยน / เด็ก: 1 สาย 400 เยน 2 สาย 800 เยน ไปกลับ 2 สาย 1,500 เยน
• รับบัตร JCB

2. เทศกาลหิมะโยโคเตะ (จังหวัดอาคิตะ)

แสงไฟนับพันดวงที่กระจัดกระจายอยู่ในทุ่งหิมะของลานกว้างริมแม่น้ำจาโนะซากิคือคามาคุระ (กระท่อมหิมะ) ขนาดเล็ก จุดเทียนใน "บ้าน" หลังเล็กๆ ที่ทำจากหิมะปั้นจนแข็งเพื่อให้แสงสว่างแก่ทุ่งหิมะด้วยแสงที่นุ่มนวล

คุณสามารถสัมผัสโลกแห่งเทพนิยายของดินแดนหิมะได้ในเทศกาลหิมะตามธรรมเยียมดั้งเดิมที่สืบทอดมาประมาณ 450 ปีในเมืองโยโคเตะ เป็นงานปีใหม่ย่อย ๆ ที่อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งน้ำและจัดขึ้นในวันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์ของทุกปี

ว่ากันว่าเป็นการบูชาเทพเจ้าแห่งน้ำและแสดงความรู้สึกขอบคุณต่อน้ำเพราะเคยมีปัญหาเรื่องน้ำในเมืองมามากในอดีต โดยการเข้าไปข้างในกระท่อมคามาคุระและถวายของให้กับเทพเจ้าแห่งน้ำที่ถูกบูชาอยู่ต่อหน้าเพื่ออธิษฐานขอให้ครอบครัวปลอดภัย ค้าขายรุ่งเรือง และเก็บเกี่ยวสมบูรณ์

ตามกระท่อมหิมะคามาคุระประมาณ 80 หลังที่ทำขึ้นภายในอำเภอ จะมีเด็ก ๆ ในท้องถิ่นมาช่วยเสิร์ฟอามาซาเกะด้วย การต้อนรับอย่างอบอุ่นที่มีให้กับร่างกายที่อันหนาวเย็นเมื่อเดินเล่นท่ามกลางความหนาวก็ยิ่งจะทำให้ความทรงจำของการเดินทางรู้สึกอบอุ่นยิ่งขึ้น ข้างในกระท่อมคามาคุระที่ทำจากหิมะนั้นคงคิดกันว่าจะหนาวเย็น แต่จริง ๆ แล้วอุ่นกว่าที่คาดไว้เลยเชียว

เทศกาลหิมะโยโคเตะ

• กำหนดการ: วันที่ 15 และ 16 กุมภาพันธ์ของทุกปี
• สถานที่จัด: หน้าศาลาว่าการอำเภอโยโคเตะ และสวนสาธารณะโยโคเตะ
• การเดินทาง: เดิน 10 นาทีจากสถานี Yokote บนสาย JR Ou มีบริการรถบัสวิ่งวนสถานที่จัดงานคามาคุระฟรี (ประมาณ 17:40 ถึง 21:00 น.)
• เวลา: 18:00-21:00 น.

*เนื้องานอาจมีการเปลี่ยนแปลง มีการลดขนาดงาน หรือมีการยกเลิกการจัดงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19

3. ฮักโกดะ (จังหวัดอาโอโมริ)

ภูเขาฮักโกดะตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภออาโอโมริ จังหวัดอาโอโมริ ไฮไลท์ของฮักโกดะในฤดูหนาวคือกลุ่มต้นไม้น้ำแข็งที่เรียกว่า "ปีศาจหิมะ" ต้นสนอาโอโมริโทโตมัตสึซึ่งเติบโตมากมายในฮักโกดะจะสะสมหิมะและน้ำแข็งที่มากระทบจนใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดก็กลายร่างเป็น "สัตว์ประหลาด" นั่งกระเช้าขึ้นไปบนยอดเขาประมาณ 10 นาที การเดินเล่นกลางอากาศพร้อมกับมองดูต้นไม้เป็นความสุขที่แท้จริงของภูเขาฮักโกดะในฤดูหนาว

เมื่อคุณเล่นสกีบนภูเขาฮักโกดะ ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับการเล่นสกีพร้อมชมต้นไม้น้ำแข็ง คาบสมุทรสึการุและคาบสมุทรชิโมคิตะ ไปจนถึงฮอกไกโดในระยะไกลได้ ในการเดินป่าด้วยรองเท้าหิมะ คุณสามารถมองเห็นต้นไม้น้ำแข็งได้อย่างใกล้ชิด และคุณอาจเผชิญกับพายุหิมะที่รุนแรงได้ด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ นอกจากนี้ ยังมีวิธีเพลิดเพลินได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่น การมองหารอยเท้าของกระรอกและกระต่ายที่ตื่นจากการจำศีลฤดูหนาวในต้นฤดูใบไม้ผลิ

นอกจากนี้ ก่อนการเปิดภูเขาฮักโกดะและเส้นทาง Towada Gold Lines ซึ่งปกติจะปิดให้บริการในฤดูหนาวนั้น ทางเดินหิมะขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นเมื่องานกำจัดหิมะออกจากเส้นทางเสร็จสิ้น อีเว้นท์ที่มีช่วงเวลาจำกัด "Hakkoda Walk" ซึ่งคุณสามารถไปเดินได้เพียงสองวันก่อนการเปิดภูเขาก็เต็มไปด้วยความอลังการกับทางเดินกลางกำแพงหิมะขนาดใหญ่ที่สูงชันถึง 9 เมตร และทอดยาวไปถึง 8 กม. คุณสามารถสัมผัสธรรมชาติอันงดงามของฮักโกดะได้ (ต้องสมัครเข้าร่วมล่วงหน้า) หลังจากนั้นก็ไปผ่อนคลายในบ่อน้ำพุร้อนออนเซ็นที่แปลกตา

การเดินทางไปยังกระเช้าลอยฟ้าลานสกีฮักโกดะ: ประมาณ 80 นาทีโดยรถบัส JR จากสถานี Aomori

กระเช้าลอยฟ้าลานสกีฮักโกดะ

• เวลาทำการ: 9:00-16:20 น. ระหว่างเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน และ 9:00-15:40 น. ระหว่างกลางเดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์
• ราคา: ผู้ใหญ่ เที่ยวเดียว 1,250 เยน ไปกลับ 2,000 เยน เด็ก เที่ยวเดียว 450 เยน ไปกลับ 700 เยน

4. กินซันออนเซ็น (จังหวัดยามากาตะ)

กินซันออนเซ็นเป็นหนึ่งในแหล่งน้ำพุร้อนซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโทโฮคุ ขับรถประมาณ 30 นาทีจากอำเภอโอบานะซาวะ จังหวัดยามากาตะ แม้จะอยู่ในดินแดนหิมะอย่างจังหวัดยามากาตะ แต่ภูมิทัศน์ของที่นี่ที่เต็มไปด้วยหิมะและอาคารย้อนยุคที่สามารถมองเห็นได้ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกุมภาพันธ์นั้นก็เป็นที่นิยมอย่างยิ่ง ทิวทัศน์ที่สร้างบรรยากาศที่ชวนให้รำลึกถึงอดีตมากขึ้นด้วยหิมะที่ตกลงมาและแสงไฟจากตะเกียงก๊าซในทิวทัศน์เมืองโบราณที่ยังคงหลงเหลือมาจาก 100 ปีก่อน ก็เชิญชวนให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากให้มาที่กินซันออนเซ็นกันในฤดูหนาว

จุดเริ่มต้นของกินซันออนเซ็นนั้น ก็คือประมาณราว ๆ ปีค.ศ. 1600 ชื่อ "กินซัน" (เหมืองเงิน) มาจากการเป็นสถานที่ที่มีการขุดแร่เงินชั้นนำของญี่ปุ่นในสมัยเอโดะตอนต้น (ค.ศ. 1603–1868) เมื่อการผลิตลดลงและเหมืองเงินถูกปิด ก็กลายเป็นรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่เจริญรุ่งเรืองแทน

นอกจากนี้ นี่คือสถานที่ดำเนินเรื่องของละครโทรทัศน์ชั้นนำของญี่ปุ่น "โอชิน" ที่ออกอากาศไปทั่วโลก โดยเป็นเมืองน้ำพุร้อนที่แม่ของโอชินมาทำงานเป็นพนักงาน และยังใช้โรงแรมย้อนยุคไม้หลายชั้นเป็นสถานที่ถ่ายทำ ที่ "โคะเซกิยะ เบ็คคัง" ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดเล็กที่มีสถาปัตยกรรมไม้สไตล์ญี่ปุ่นอันมีรสนิยมซึ่งตั้งอยู่ในใจกลางของกินซันออนเซ็นนั้น คุณสามารถรับประทาน "ข้าวโอชิน" ซึ่งทำมาจากการหุงหัวไชเท้าไดคอนพร้อมกับข้าวขาวเป็นอาหารเช้าได้ด้วย

การเดินทางไปยังกินซันออนเซ็น

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาทีโดยรถบัสจากสนามบินยามากาตะ หรือ นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายยามากาตะ 3 ชั่วโมง 20 นาทีจากสถานีโตเกียวไปยังสถานี JR Oishida → แล้วต่อรถบัสอีกประมาณ 40 นาทีจากสถานี JR Oishida ไปยังกินซันออนเซ็น