ถึงจะมีช่วงหนึ่งที่ชอบช้อปกระจาย แต่ตอนนี้รู้สึกอยากจะหลีกเลี่ยงฝูงคนไปและไปการพักค้างคืนเพื่อพักผ่อนหย่อนใจ และเผชิญหน้ากับตัวเองโดยผ่านการสัมผัสวัฒนธรรมมากกว่าค่ะ
ซึ่งไม่มีที่ไหนเหมาะไปมากกว่าโอซาก้าอีกแล้ว ไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ได้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทุกครั้งที่มาเยือนค่ะ
ในบทความนี้ เราจะแนะนำการเดินทางที่ล้ำลึกด้วยรถไฟนันไค ที่เชื่อมต่อโอซาก้ากับภูเขาวาคายามะและภูเขาโคยะ
ออกเดินทางจากเมืองซาไก โอซาก้า และมุ่งหน้าไปยังภูเขาโคยะ มรดกโลกกันค่ะ
* สัมผัสบรรยากาศของการเที่ยวออนไลน์ โดยชมวิดีโอที่ถ่ายทำจากสถานที่จริงพร้อมกับบทความนี้นะคะ
คีย์เวิร์ดที่ต้องจำเมื่อไปเที่ยวเมืองซาไกคำที่ 1 "ปรมาจารย์ด้านการชงชา" เซ็นโนะริคิว
“ถ้ายังไม่ได้ดื่มมัทฉะที่เมืองซาไก ถือว่ายังมาไม่ถึงที่นี่”
เมืองซาไกซึ่งอยู่ติดกับเมืองโอซาก้านั้น เป็นเมืองหลักในโอซาก้าใต้ ซึ่งสามารถเดินทางไปถึงได้ภายใน 10 นาทีโดยรถไฟจากสถานีนัมบะ
ถ้าพูดถึงเมืองซาไกแล้ว ก็ต้องแนะนำพิธีชงชาก่อนเลย นี่เป็นเพราะว่าที่นี่เป็นบ้านเกิดของ เซ็นโนะริคิว หรือที่รู้จักกันในนามผู้ก่อตั้งพิธีชงชาสไตล์เซ็นเกะ และยังเป็นที่รู้จักกันในนาม "ปรมาจารย์ด้านการชงชา" นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียงในฐานะนักชงชาของขุนศึกในสมัยเซ็งโงกุ เช่น โอดะ โนบุนากะ และโทโยโตมิ ฮิเดโยชิ และหลายคนอาจเคยได้ยินชื่อนี้แล้วหากเป็นคนที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์
เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพิธีชงชา เราจึงเดินทางไปที่พิพิธภัณฑ์การชงชาซาไกริโชโนะโมริ (Sakai Plaza of Rikyu and Akiko) จากสถานีซาไกไปทางทิศใต้ประมาณ 10 นาที เดินไปตามถนนฟีนิกซ์สักพัก ก็จะเห็นอาคารที่มีกำแพงเป็นกระจกค่ะ พิพิธภัณฑ์การชงชาซาไกริโชโนะโมริ ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการเผยแพร่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของซาไก มีนิทรรศการถาวรและนิทรรศการพิเศษมากมายโดยเน้นนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับนักกวีและนักเขียน โยซาโนะ อากิโกะ ที่เกิดในเมืองซาไกเช่นเดียวกับเซ็นโนะริคิว
พิพิธภัณฑ์การชงชาซาไกริโชโนะโมริ (Sakai Plaza of Rikyu and Akiko)
- ที่อยู่: 1-1, Shukuinchonishi, Sakai-ku, Sakai-shi, Osaka
- เวลาทำการ: 09:00 - 18:00 (เวลาเข้าชมรอบสุดท้าย 17:30)
- วันหยุดประจำ: วันอังคารที่ 3 (หากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์จะหยุดวันถัดไป) วันหยุดสิ้นปีและวันขึ้นปีใหม่
- การเดินทาง: เดินประมาณ 10 นาทีจากสถานีซาไก
หากเริ่มมีความสนใจในวัฒนธรรมการชงชา การลองชงชาด้วยตัวเองก็น่าสนใจค่ะ! เนื่องจากที่นี่มีกิจกรรมห้องชงชาสำหรับผู้เข้าชมที่มาเป็นกลุ่ม ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์มาก่อนก็ตามก็สามารถเรียนรู้ได้อย่างสบายใจค่ะ สามารถเรียนรู้วิธีการโค้งคำนับ วิธีการรับประทานของหวานและชา วิธีการชื่นชมอุปกรณ์ชงชา และวิธีการเข้าห้องไปจนถึงการออกจากห้องอย่างละเอียดถี่ถ้วน ภายใต้การแนะนำของนักชงชาซังเซ็นเกะ ขนมที่เสิร์ฟนั้นซื้อมาจากร้านขนมในเมืองซาไก และยังใช้เครื่องปั้นดินเผาของซาไก "มินาโตะยากิ" และอื่นๆ อีกด้วย ไม่มีที่ไหนที่จะสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับพิธีชงชาที่ซาไกได้เร็วไปกว่าที่นี่อีกแล้ว
และยังมีขนมจับคู่กับชาเสิร์ฟให้รับประทานก่อนใครเพื่อนด้วยค่ะ เราได้ทาน "ขนมซะซังกะ" ที่ทำจากถั่วขาวกวน (ชิโรอัน) และถั่วแดงกวนแบบเนื้อละเอียด (โคชิอัน) ในวันที่ไปเยือนค่ะ
และยังสามารถสนุกสนานไปกับชงชาโดยใช้แปรงชงชาหรือชะเซน (เครื่องชงชาไม้ไผ่) ด้วยตนเอง
จะเห็นซากคฤหาสน์เซ็นโนะริคิว จากห้องน้ำชาได้ด้วย เป็นร่องรอยของบ้านเกิดของเซ็นโนะริคิว และยังคงมีบ่อน้ำสึบากิ ซึ่งเซ็นโนะริคิวใช้ในการชงชาหลงเหลืออยู่
กิจกรรมเรียนรู้วัฒนธรรมห้องชงชา
- เวลาจัดกิจกรรม: 10:00 ~, 11:30 ~, 13:00 ~, 14:30 ~, 16:00 ~
- ราคา: 1,020 เยน / คน (สำหรับ 5 คน)
* ราคาแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ใช้
* สำหรับ 4 คนหรือน้อยกว่า โปรดใช้บริการ "กิจกรรมห้องชงชาสำหรับประสบการณ์ส่วนตัว"
* เฉพาะวันอาทิตย์ที่ 3 ของทุกเดือน จะมี "กิจกรรมห้องชงชาสำหรับประสบการณ์ส่วนตัว" ที่สามารถเข้าร่วมได้ตั้งแต่ 1 คน
* โดยปกติ การสำรองห้องพักต้องทำล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน
เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมของซาไกแล้ว ก็จะลืมมีดไม่ได้ค่ะ ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสามแหล่งผลิตมีดหลักๆ ของญี่ปุ่น โดยมีร้านขายมีดและโรงตีมีดมากมาย เช่น พิพิธภัณฑ์มีดซาไก (ศูนย์อุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้งเดิมซาไก ชั้น 2) และร้านวาดะโชเท็น นอกจากจะสามารถเข้าชมโรงตีมีดได้แล้ว ยังมีสถานที่ที่มีกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์การตีมีดและการลับคมมีด และยังสามารถใส่ชื่อของตัวเองลงไปบนมีดที่ซื้อได้ด้วย หากได้รู้แล้วว่ามีดคมแค่ไหนแล้วละก็ จะต้องติดใจมีดของซาไกแน่นอนค่ะ!
คีย์เวิร์ดที่ต้องจำเมื่อไปเที่ยวเมืองซาไกคำที่ 2 มรดกโลก "สุสานโคะฟุง"
เมื่อพูดถึงเมืองซาไก ยังรู้สึกเหมือนเหตุการณ์ที่สุสานโมซุ-ฟูรูอิจิ โคะฟุงได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมเป็นครั้งแรกในโอซาก้าในปี 2019 เกินขึ้นเมื่อวานอยู่เลยค่ะ
หลุมฝังศพของกษัตริย์ในหมู่เกาะญี่ปุ่นโบราณ 44 แห่งตั้งอยู่ที่เมืองซาไกตอนเหนือ จากจำนวนทั้งหมดกว่า 100 แห่งทั่วทั้งญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น สุสานจักรพรรดินินโทคุ ที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของศตวรรษที่ 4 ถึงครึ่งหลังของศตวรรษที่ 5 ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสุสานใหญ่ของโลก
ถึงจะไม่สามารถเข้าไปภายในตัวสุสานได้ แต่สามารถทำการสักการะได้ที่ สถานที่สักการะของสุสานจักรพรรดินินโทคุ และเดินเล่นในสวนสาธารณะไดเซ็นที่อยู่ติดกัน พร้อมกับเพลิดเพลินไปกับสิ่งต่างๆ มากมายที่อยู่บริเวณโดยรอบค่ะ
การท่องเที่ยวพื้นที่บริเวณสุสานเริ่มต้นที่สวนญี่ปุ่นที่อยู่ภายในสวนสาธารณะไดเซ็นซึ่งถูกรายล้อมไปด้วยพืชพรรณต่างๆ เป็นบริเวณกว่า 380,000 ตร.ม. เป็นทั้งสถานที่ที่จะได้สัมผัสทั้งประวัติศาสตร์และธรรมชาติอีกด้วย สามารถชมดอกซากุระได้ในฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสีได้ในฤดูใบไม้ร่วง ท่ามกลางอากาศที่แจ่มใส สามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่เงียบสงบจนลืมไปเลยว่าอยู่ใจกลางเมืองค่ะ
เพราะการเดินวนรอบในครั้งเดียวนั้นเป็นเรื่องยาก เราจึงแวะพักเหนื่อยที่สวนญี่ปุ่นค่ะ เมื่อได้มาเยือนที่สวนแห่งนี้ ซึ่งเป็นสวนญี่ปุ่นแบบชิคุซังรินเซ็นไคยูชิกิที่มีความกว้าง 26,000 ตร.ม. แล้ว ต้องไม่พลาดที่จะลองชิมเมนูชา (เทฉะ) ค่ะ รู้สึกเหมือนกับว่าความเหนื่อยในแต่ละวันหายไป เมื่อได้เพลิดเพลินไปกับบึงน้ำ สะพานหิน และธรรมชาติบริเวรณรอบๆ ขณะดื่มมัทฉะและรับประทานขนมญี่ปุ่นที่เปลี่ยนเมนูไปในแต่ละเดือน
สามารถเลือกระหว่างชุดมัทฉะ / ขนมฮิกะชิ (ขนมญี่ปุ่นแห้งทำจากแป้งและน้ำตาลที่ไม่ค่อยมีน้ำ) (300 เยน) และชุดมัทฉะ / ขนมโอโมะกะชิ (ขนมญี่ปุ่นที่ใช้ถั่วเป็นหลัก) (450 เยน)
สวนญี่ปุ่น สวนสาธารณะไดเซ็น
- ที่อยู่: Daisen Nakamachi, Sakai-ku, Sakai-shi, Osaka (ภายในสวนสาธารณะไดเซ็น)
- เวลาทำการ:
- เดือนมีนาคม - พฤศจิกายน 09:00 - 17:00 (เข้าได้จนถึง 16:30)
- เดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ 09:30 - 16:30 นาที (เข้าได้จนถึง 16:00)
- *เพื่อป้องกันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) L.O. คือ 15:30
- วันหยุดประจำ: วันจันทร์ (หากวันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดวันธรรมดาวันถัดไป) วันหยุดปีใหม่
- การเดินทาง: เดินประมาณ 15 นาทีจากสถานี JR โมซุ
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจนั้นคือ "Kofunmae café IROHA" ที่ใกล้ทางเข้าสวนสาธารณะ ซึ่งเปิดทำการใหม่ในเดือนมีนาคม 2021 หลังจากปิดซ่อมแซมไป "โคะฟุงเบอร์เกอร์" ซึ่งเสิร์ฟด้วยปริมาณล้นเต็มจานเป็นเมนูเด็ดของคาเฟ่นี้ เนื่องจากเปิดให้บริการตั้งแต่ 9 โมงเช้า จึงสามารถแวะมาใช้บริการได้หลังจากเดินเล่นในสวนสาธารณะในช่วงเช้า
เมนูข้าวกล่องตะกร้าจำกัด 20 มื้อต่อวัน ประกอบด้วยซุป โอบันไซตามฤดูกาล และเทมปุระนานาชนิด
เมื่อมองแวบแรก เครื่องหมายนี้ดูเหมือนรูกุญแจกลับหัว แต่จริงๆ แล้วเป็นตราของสุสานโคะฟุงนั่นเองค่ะ ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะเห็นว่าพนักงานทุกคนใส่เสื้อยืดที่มีเครื่องหมายสุสานโคะฟุงพิมพ์อยู่!
Kofunmae café IROHA
- ที่อยู่: 2-204, Mozusekiuncho, Sakai-ku, Sakai-shi, Osaka
- เวลาทำการ: 09:00 - 18:00
- วันหยุดประจำ: วันจันทร์ (หากเป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ จะหยุดชดเชยในวันอังคารถัดไป)
เช่นเดียวกับร้าน Kofunmae café IROHA ค่ะ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวสุสานโมซุโคะฟุง (Mozu Mounded Tombs Visitor Center) ได้เปิดตัวในฤดูใบไม้ผลิปีค.ศ. 2021 ถัดไปจากสุสานจักรพรรดินินโทคุ ภายในศูนย์สามารถชมการฉายภาพโปรเจคชั่นแมปปิ้ง 8K ที่โรงหนังได้ฟรีอีกด้วย ความอลังการของภาพที่ฉายนั้นเกินกว่าคำบรรยาย!
ลอดผ่านสถานีที่เป็นประเด็นใน Instagram จากโลกมนุษย์ไปสู่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์
เดินทางด้วยรถไฟจากสถานีนัมบะใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็จะถึงสถานีโกคุระคุบาชิ สถานีสุดท้ายบนสายโคยะ
จากที่นี่ ให้เปลี่ยนไปขึ้นเคเบิลคาร์โคยะซัง และมุ่งหน้าสู่ภูเขาโคยะมรดกโลกอีกแห่ง... แต่จะเสียใจถ้าหากเดินผ่านสถานีโกคุระคุบาชิไปเฉยๆ ค่ะ! (ถึงแม้คนส่วนใหญ่ไม่น่าจะเดินผ่านไปเลย)
เพราะอย่างที่เห็นได้จากรูปนี้ มีของตกแต่งที่เหมาะกับการถ่ายรูปอยู่มากมายเต็มไปหมด! ด้วยคอนเซปต์ "สถานีโกคุระคุบาชิ จุดเริ่มต้นของดินแดงศักดิ์สิทธิ" ได้ทำการปรับปรุงใหม่ในเดือนกรกฎาคม 2020 โดยทางเดินฝั่งสถานีรถไฟถูกตกแต่งเป็น "โลกมนุษย์" ในขณะที่ฝั่งเคเบิลคาร์เป็น "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์" และอาคารเทียบเครื่องบินด้านเคเบิลคาร์เป็น "สถานที่ศักดิ์สิทธิ์" ได้รับความสนใจจนกลายเป็น "ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของสาวก Instagram"
และอีกเหตุผลหนึ่งที่ได้รับความสนใจนั้น คือภาพวาดบนเพดานกว่า 50 ชนิด เช่น นกสวรรค์ รวมถึงสัตว์และพืชต่างๆ หลากชนิดที่เกี่ยวข้องกับภูเขาโคยะ นอกจากนี้ยังมี “ขนนกสวรรค์ขอพร” ซึ่งเป็นขนนกกระดาษที่มีบ่อโชซึยะและขนนกสวรรค์เป็นแบบตกแต่งอยู่ด้วย
แต่อย่ามัวแต่ถ่ายรูปเพลินจนลืมเวลาแล้วพลาดรอบรถเคเบิลคาร์นะคะ
มีให้เลือกสามสี ได้แก่ สีแดง (การตัดสินใจในการเริ่มต้น) สีขาว (ความปรารถนาที่จะปลดปล่อยจิตใจ) และสีแดงอ่อน (อธิษฐานเกี่ยวกับความรัก) ซึ่งแต่ละสีมีความหมายของตัวเอง ขนนกสวรรค์ขอพรเหล่านี้จะถูกเผาที่ "เทศกาลไฟโคยะ" ซึ่งจัดขึ้นในเดือนมีนาคมของทุกปี
* สีแดงอ่อนมีขายเฉพาะ "วันโกคุระคุ (วันที่ 5 และ 9 ของทุกเดือน)"
พักแรมที่วัด และไปสักการะอุเอสึงิ เคนชินและโอดะ โนบุนากะ
หลังจากถ่ายรูปที่เล็งไว้ได้แล้ว ก็ขึ้นเคเบิลคาร์ที่เชื่อมกับสถานีโคยะซังและเพลิดเพลินไปกับเวลาบนท้องฟ้าประมาณ 5 นาที ว่ากันว่าความสูงต่างกัน 328 เมตร ซึ่งมีความสูงพอๆ กับโตเกียวทาวเวอร์เลยค่ะ
ประวัติศาสตร์ของเขาโคยะซังนั้นสามารถสืบย้อนไปถึงเมื่อ 1200 ปีที่แล้ว เชื่อกันว่าพระโคโบไดชิยังคงอาศัยอยู่ที่อารามโอคุโนะอิน ซึ่งตั้งอยู่ในดินแดนศักดิ์สิทธิของศาสนาพุทธนิกายชินกอนมิตสึ โดยมีผู้ก่อตั้งคือพระโคโบไดชิ คูไค และท่านทำการอธิษฐานขอสันติภาพและความสุขของผู้คน ทำให้ทุกวันที่ก็ยังคงมีสาวกอยู่มากมาย
แม้ว่าจะไม่เคยมาเที่ยวเขาโคยะซังมาก่อน แต่ชาวต่างชาติน่าจะเคยได้ยินชื่อของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับเขาโคยะซังอย่างน้อยครั้งหนึ่งค่ะ เนื่องจากที่อารามโอคุโนะอินนี้ ซึ่งถือว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สุดบนภูเขาโคยะนั้น มีหลุมศพและอนุสรณ์สถานของขุนศึกหลับใหลอยู่มากมาย เช่น อุเอสึงิ เคนชิน, โอดะ โนบุนากะ, อาเคจิ มิตสึฮิเดะ และดาเตะ มาซามุเนะ
จากวัดวาอารามทั้งหมด 117 แห่งบนเขาโคยะซัง มีชุคุโบ (วัดวาอารามที่มีที่พักอยู่ด้วย) กว่า 51 แห่ง โดยแต่ละที่มีลักษณะเฉพาะของตนเอง เช่น อาหารมังสวิรัติ ห้องพัก ห้องอาบน้ำ และสวน สามารถเข้าพักได้ถึงไม่ใช่ชาวพุทธก็ตาม และสามารถเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาที่พิเศษตามแบบของแต่ละคนค่ะ เราเช็คอินเข้าพักคืนนี้ที่ชุคุโบของอารามมุเรียวโคอิน ตื่นเต้นที่จะได้พักแรมที่วัดสุดๆ เลยค่ะ!
อาหารเป็นอาหารมังสวิรัติที่มีผักมากมายโดยไม่ใช้ปลาหรือเนื้อสัตว์เลย เป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพค่ะ
ที่เขาโคยะซัง จะมีทัวร์กลางคืนอารามโอคุโนะอินนำทางโดยพระสงฆ์ของในช่วงกลางคืน การทัวร์นี้ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง จะได้ไปเยี่ยมชมเส้นทางสู่อารามโอคุโนะอิน ซึ่งมีหลุมฝังศพของบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์เรียงกันอยู่ เช่น โอดะ โนบุนากะ, ตระกูลโทโยโทมิ และตระกูลโทกุงาวะ รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมญี่ปุ่น พร้อมกับความตื่นเต้นลึกๆ ด้วยค่ะ (มีภาษาอังกฤษ)
ถึงการตื่นสายจะถือเป็นสิทธิพิเศษในวันหยุดก็ตาม แต่ไหนๆ ก็มาเที่ยวแล้ว จะเอาแต่นอนต่อจนถึงเที่ยงก็ไม่ได้ค่ะ เราจึงมาเข้าร่วมการทำวัดตั้งแต่ 6 โมงเช้า คุ้มค่ามากที่จะได้เห็นพิธีโฮมะอย่างใกล้ชิดค่ะ!
อารามมุเรียวโคอิน
- ที่อยู่: 611 Koyasan, Koya-cho, Ito-gun, Wakayama Prefecture
ตั๋วสุดคุ้มสำหรับการเดินทางไปเที่ยวเขาโคยะซัง
แนะนำ "ตั๋วรถไฟมรดกโลกโคยะซัง" หากต้องการเพลิดเพลินไปกับเขาโคยะซังอย่างเต็มที่!
นอกจากรวมตั๋วไปกลับระหว่างสถานีเริ่มต้นกับสถานีโคยะซังแล้ว (ประหยัดไป 640 เยนหากนั่งจากสถานีนัมบะ) ยังมีตั๋วโดยสารรถบัสในภูเขาโคยะแบบไม่จำกัดเที่ยวที่ใช้ได้ 2 วัน และตั๋วบริการส่วนลดสำหรับการเข้าชมสถานที่ต่างๆ สามารถไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวัดคงโกบุจิ หอคมปงไดโต และอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่ได้แนะนำในครั้งนี้ได้ในครั้งเดียว!
Comments