ญี่ปุ่นเป็นประเทศหมู่เกาะ แต่เนื่องจากเป็นหมู่เกาะที่อยู่เหนือแนวภูเขาไฟ จึงมีน้ำพุร้อนออนเซ็นอันอุดมสมบูรณ์ครับ แต่ถึงกระนั้นก็ดี ญี่ปุ่นก็มีภูเขาไฟจำนวนมาก หลายแห่งก็ยังคุกรุ่น และคนญี่ปุ่นก็อาศัยอยู่กันแม้จะมีความกังวลว่าเมื่อไหร่ภูเขาไฟจะปะทุขึ้นมาครับ บทความนี้จะเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงอาศัยอยู่บริเวณภูเขาไฟกันได้ครับ!
ตรงนี่ปลอดภัยมั้ย? รู้ได้จากประเภทของภูเขาไฟ
อย่างแรกเลย ภูเขาไฟนั้นแบ่งออกเป็นประเภทต่าง ๆ มีการแบ่งประเภทตามหมวดหมู่ เช่นตามรูปทรงโครงสร้างและอายุของภูเขาไฟจนกว่าจะดับ แต่ถ้าเป็นหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย ก็ควรทราบเกี่ยวกับประเภทความคุกรุ่น 3 ประเภทครับ ซึ่งก็ได้แก่ "ภูเขาไฟที่ดับแล้ว" "ภูเขาไฟที่สงบ" และ "ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น" อย่างไรก็ตาม เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ไม่มีการใช้ "ภูเขาไฟที่ดับแล้ว" และ "ภูเขาไฟที่สงบ" ผมคิดว่าหลายคนคงเคยได้ยินแต่คำว่า "ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น" เท่านั้นครับ
ภูเขาไฟที่ดับแล้ว
ภูเขาไฟที่ไม่มีบันทึกการปะทุหรือกิจกรรมการเคลื่อนไหวของแมกมาใต้ดินใด ๆ ในช่วงยุคประวัติศาสตร์ (ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 10,000 ปีที่แล้ว) จัดเป็น "ภูเขาไฟที่ดับแล้ว" ภูเขาไฟที่ดับแล้วนั้นเกือบจะปลอดภัยแล้ว และคุณสามารถอยู่ใกล้ ๆ ได้โดยไม่ต้องกังวล ภาษาอังกฤษเรียกว่า Extinct Volcano ส่วนภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 死火山 (shikazan)
ภูเขาไฟที่สงบ
มีลักษณะการแบ่งประเภทคล้ายกับ "ภูเขาไฟที่ดับแล้ว" แต่หมายถึงภูเขาไฟที่มีบันทึกและร่องรอยของกิจกรรมการเคลื่อนไหวของแมกมาใต้ดินในช่วงยุคประวัติศาสตร์และไม่ได้ปะทุหรือคุกรุ่นอยู่ในปัจจุบัน ภาษาอังกฤษเรียกว่า Dormant Volcano และภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า 休火山 (kyuukazan) แต่คำจำกัดความแตกต่างออกไปเล็กน้อยครับ มีความหมายว่า "ไม่ได้คุกรุ่นในปัจจุบัน แต่สักวันอาจจะกลับมาปะทุเมื่อไหร่ก็ได้"
ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น
ภูเขาไฟมีบันทึกและร่องรอยของกิจกรรมภายใน 10,000 ปีที่ผ่านมาและยังเกิดการปะทุอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบัน จัดเป็น "ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น" ในภาษาอังกฤษคือ Active Volcano ส่วนภาษาญี่ปุ่นคือ 活火山 (katsukazan)
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่และวิธีการตรวจวัด นักวิทยาศาสตร์จึงสามารถเข้าใจวงจรชีวิตของภูเขาไฟได้ การจำแนกประเภทโดยอาศัยประวัติศาสตร์ของการปะทุเท่านั้นจึงไม่มีความหมายอีกต่อไป และไม่มีการจำแนกประเภทอื่น ๆ นอกจาก "ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่น" เท่านั้นครับ
จำนวนภูเขาไฟในญี่ปุ่น
จำนวนภูเขาไฟในญี่ปุ่นนั้น หากรวมภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วยก็มีประมาณ 440 ลูกครับ ในจำนวนนี้ เดิมมีภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ 108 ลูกในญี่ปุ่น แต่ได้มีการพิจารณาเพิ่มภูเขาไฟเกิดใหม่ 2 ลูกในปี 2011 และอีก 1 ลูกในปี 2017 รวมเป็นภูเขาไฟทั้งหมด 111 ลูกในปัจจุบัน ในบรรดาภูเขาไฟเหล่านี้ หลายแห่งได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวด้วยครับ
ภูเขาไฟที่สามารถไปเที่ยวได้? ไม่อันตรายเหรอ?
ในญี่ปุ่นมีระบบเตือนภัยเวลาภูเขาไฟปะทุหรือระเบิด ดังนั้นในช่วงเวลาที่มีอันตรายได้จึงไม่สามารถไปเที่ยวชมได้ แต่นอกเหนือจากเวลาดังกล่าวแล้วก็สามารถไปเที่ยวชมได้ตามปกติ แต่หากมีการประกาศเตือนการปะทุ ก็อาจไม่สามารถไปเที่ยวขึ้นมาเอาง่าย ๆ ได้ครับ ดังนั้นควรตรวจสอบเว็บไซต์อย่างเป็นทางการก่อนเดินทางไป จากนี้ไปเราจะมาแนะนำภูเขาไฟที่สามารถไปเที่ยวได้พร้อมวิธีการเพลิดเพลินกับการเที่ยวที่ดังกล่าวครับ!
ควันกำมะถันและไข่ดำ ณ โอวาคุดานิ ภูเขาฮาโกเน่ จังหวัดคานากาว่า
ฮาโกเน่ในจังหวัดคานากาว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อเสียงสำหรับทริปไปกลับในวันเดียวจากโตเกียว มีทะเลสาบอาชิและน้ำพุร้อนให้ไปเพลิดเพลิน แต่โอวาคุดานิ (大涌谷 / Owakudani) ได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการชมความเคลื่อนไหวของภูเขาไฟ เนื่องจากเป็นส่วนที่เหลือของภูเขาไฟฮาโกเน่ที่ระเบิดเมื่อประมาณ 3000 ปีที่แล้ว ก๊าซภูเขาไฟและก๊าซกำมะถันยังคงออกมาจากใต้ดิน คุณอาจไม่สามารถเข้าได้ขึ้นอยู่กับระดับการเตือน ไข่ดำของดังของที่นี่ก็ถูกต้มโดยใช้น้ำร้อนที่เต็มไปด้วยกัมมะถันจากภูเขาไฟใต้โอวาคุดานิครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: โอวาคุดานิ ซากปล่องภูเขาไฟฮาโกเน่
ปล่องไอร้อนกำมะถัน ณ ภูเขาอิโอ จังหวัดฮอกไกโด
ชื่ออย่างเป็นทางการคือ อะโตซานุปุริ (アトサヌプリ / Atosanupuri) และชื่อที่รู้จักกันทั่วไปคือ ภูเขาอิโอ (硫黄山 / Iou-zan) ที่มาของชื่อคือปล่องไอร้อนและกลิ่นของกำมะถันที่รุนแรง กลิ่นของกำมะถันก็เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นกัน แต่หากตรวจสอบระดับการเตือนและเตรียมเครื่องป้องกันที่ดีพร้อม คุณก็สามารถไปเที่ยวได้อย่างสบายใจครับ นอกจากนี้คุณยังสามารถเห็นดอก Ezoisotsutsuji สีขาวที่หายากได้อีกด้วย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ภูเขาไฟขนาดเล็กที่ยังคุกรุ่นของอุทยานแห่งชาติอะคังมาชู ภูเขาไฟอิโอ หรือ อิโอซัง
ทัวร์นรกกำมะถัน ณ โอโซเระซัง จังหวัดอาโอโมริ
โอโซเระซัง (恐山 / Osorezan) หนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์ในญี่ปุ่น จริง ๆ แล้วเป็นกลุ่มภูเขาที่มีมีภูเขาย่อยหลายลูก ซึ่งก็รวมถึงภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นอยู่ด้วย นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเที่ยวมาตราฐานเป็นการทัวร์นรก (地獄巡り / jigoku meguri) โดยไปตระเวนชมน้ำพุร้อนและหุบเขาในแอ่งภูเขาไฟครับ และยังมีวัดโอโซเระซังโบไดจิ (恐山菩提寺 / Oserezan Boudaiji) ที่มีการเปลี่ยนสีจากก๊าซกำมะถันอีกด้วยครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: โอโซเระซัง จังหวัดอาโอโมริ หนึ่งในสามภูเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งญี่ปุ่น
ไปชมปล่องภูเขาไฟ ณ ภูเขาไฟอะโสะ จังหวัดคุมาโมโตะ
ภูเขาไฟอะโสะในจังหวัดคุมาโมโตะเพิ่งปะทุไปในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2021 ระดับการเตือนจึงยังขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ครับ แต่การไปเที่ยวนั้นก็ไม่ได้มีแค่การชมปล่องภูเขาไฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีการชมแอ่งภูเขาไฟรอบ ๆ ด้วย ดังนั้นหากมีคำเตือนในระดับต่ำ คุณก็ยังสามารถไปเที่ยว ณ จุดที่ปลอดภัยได้อยู่ครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: ภูเขาอะโสะ ภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นแห่งคุมาโมโตะ
การปะทุและการพ่นควันภูเขาไฟบ่อยครั้ง ณ ซากุระจิมะ จังหวัดคาโกชิมะ
ว่ากันว่าชื่อซากุระจิมะ (桜島 / Sakurajima เกาะซากุระ) ว่าจากการที่มันเป็นภูเขาไฟบนเกาะในอ่าวคาโกชิมะ สำหรับชาวเมืองคาโกชิมะ การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเถ้าภูเขาไฟนั้นก็เป็นหลักฐานแสดงถึงความถี่ของการปะทุอย่างดีเลยครับ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเห็นหรือเก็บภาพควันและเถ้าถ่านที่พวบพุ่งออกออกมาจากปล่องภูเขาไฟ แต่จะปลอดภัยกว่าหากชมจากระยะไกลครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: เกาะซากุระจิมะแห่งญี่ปุ่น ภูเขาไฟสัญลักษณ์ประจำคาโกชิม่า
ระบบเตือนภูเขาไฟของญี่ปุ่นเพื่อความปลอดภัย
เพื่อให้สามารถไปเที่ยวชมภูเขาไฟได้อย่างปลอดภัย และเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยสามารถอาศัยอยู่ใกล้ภูเขาไฟได้อย่างปลอดภัย ทุกแห่งที่กล่าวมานั้นจึงมีการแจ้งระดับคำเตือนและอื่น ๆ ครับ ระบบเตือนภัยภูเขาไฟของญี่ปุ่นมีถึงห้าระดับ สำหรับรายละเอียด ดูบทความที่เกี่ยวข้องนะครับ
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: เกาะแห่งภูเขาไฟ มารู้จักภูเขาไฟจำนวนมากของญี่ปุ่นกัน
Comments