หิมะตกหนักและพายุหิมะของญี่ปุ่น: ควรทำอย่างไรเมื่อพบเจอ

ญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางเพื่อการเล่นสกีสำหรับหลาย ๆ คนทั่วโลก ขึ้นชื่อเรื่องหิมะผงละเอียดที่เรียกกันว่า Powder Snow ที่ชวนฝันและทิวเขาอันยิ่งใหญ่ สำหรับการเล่นสกีนั้นก็ต้องมีหิมะปริมาณมาก อย่างไรก็ตาม หิมะในชีวิตประจำวันก็อาจจะลำบากกว่าบนลานสกีมาก ไม่ว่าจะเป็นถนนที่ถูกปิดกั้นด้วยหิมะหรือพายุหิมะที่ตกสามวันติด หิมะในญี่ปุ่นก็ทำให้เกิดระบบเตือนภัย ข้อควรระวัง และไฮไลท์แยกเฉพาะของตัวเองขึ้น ดังนั้นลองอ่านรายละเอียดที่ดีที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่ควรงทำในฤดูหนาวในญี่ปุ่นกันค่ะ

ฤดูหิมะตกของญี่ปุ่นคือช่วงไหน?

โดยทั่วไป ฤดูหิมะของญี่ปุ่นจะเริ่มในกลางเดือนธันวาคมและจะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน ซึ่งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับจังหวัด ระดับความสูง และสภาพอากาศในปีนั้น แต่โดยปกติแล้วจะถกพยากรณ์อย่างแม่นยำ เมื่อพูดถึงกีฬาฤดูหนาว ฤดูท่องเที่ยวคือตั้งแต่กลางเดือนมกราคมถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ มีผู้มาเยี่ยมชมลานสกีหลายแห่งในมางตอนเหนือจากทั้งในญี่ปุ่นทั่วประเทศและจากต่างประเทศเลยค่ะ

จังหวัดที่มีหิมะตกหนักที่สุดในญี่ปุ่น

ถึงแม้จะพูดได้อย่างเต็มปากว่าตอนเหนือของญี่ปุ่นจะมีหิมะตกมากที่สุด แต่ก็มีปัจจัยเพิ่มเติมในการหาว่าจังหวัดไหนที่มีหิมะตกมากที่สุด พื้นที่ชายฝั่งมักจะได้รับหิมะน้อยลงและเทือกเขาบนแผ่นดินใหญ่ก็ยังสามารถเพิ่มการวัดปริมาณหิมะในพื้นที่ได้อย่างมาก

จริง ๆ แล้ว จังหวัดฮอกไกโดถูกจัดอยู่อันดับที่ 8 เท่านั้น เนื่องจากมีทะเลล้อมรอบ โดยมีหิมะตกเฉลี่ยรวมพื้นที่ไม่ถึง 4 เมตรต่อปี จังหวัดอาโอโมริ กิฟุ นากาโนะ และฟุกุชิมะก็มีปริมาณที่มากกว่าเพียงน้อยตามลำดับ โดยเฉลี่ยอยู่ที่ไม่เกิน 5 เมตร จังหวัดอาคิตะทางตอนเหนือมีปรืมาณหิมะตกสูงถึง 5.3 เมตรต่อปี ในขณะที่นีงาตะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 5.78 เมตร จังหวัดที่มีหิมะตกมากที่สุดในญี่ปุ่นคือยามากาตะ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากป่าต้นไม้น้ำแข็งหรือที่เรียกกันว่าสัตว์ประหลาดน้ำแข็ง (樹氷 / Ice Monsters) และเป็นที่ตั้งของภูเขามากมาย มีหิมะตกเฉลี่ย 6.3 เมตรต่อปี

ข้อควรระวังสำหรับหิมะตกในญี่ปุ่น

แม้ว่าทิวทัศน์ท่ามกลางหิมะจะสวยงาม แต่อากาศที่หนาวเย็นอาจสร้างความเสี่ยงให้กับผู้เดินทางได้ ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งบนท้องถนนหรือพายุหิมะ มีหลายวิธีในการเตรียมตัวสำหรับรับมือกับหิมะไม่ว่าคุณจะมีแผนอะไรก็ตาม พายุหิมะเกิดจากการรวมตัวของลมแรง อุณหภูมิต่ำ และหิมะที่ตกลงมา รวมกันเป็นพายุที่อันตรายมากได้ค่ะ

ข้อควรระวังสำหรับนักเดินทาง

หากคุณกำลังวางแผนการเดินทางไปญี่ปุ่นแบบง่าย ๆ โดยไม่มีกีฬาผาดโผนหรือกิจกรรมที่แปลกออกไป ข้อควรระวังก็ค่อนข้างง่าย การบรรจุเสื้อผ้าที่อบอุ่นเพียงพอหรือเตรียมซื้อเพิ่มเติมเมื่อมาถึงเป็นกุญแจสำคัญ Uniqlo เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับเสื้อผ้า heat-tech ราคาไม่แพง ซึ่งรวมถึงหมวกและถุงมือเพื่อป้องกันส่วนปลายต่าง ๆ ของร่างกาย การรักษาร่างกายให้อบอุ่นและแห้งเป็นกุญแจสำคัญในการหลีกเลี่ยงภาวะอุณหภูมิต่ำเกินไปและอาการบวมเป็นน้ำเหลืองจากน้ำแข็งกัด ซึ่งไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในการเดินทางปกติ แต่อาจต้องพิจารณาเพิ่มเติมหากคุณกำลังวางแผนเดินป่าหรือตั้งแคมป์ หรือติดอยู่ท่ามกลางพายุหิมะไปไหนไม่ได้ การมีรองเท้าที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากรองเท้ามีพื้นรองเท้ากันลื่นและซับในที่อุ่นเป็นพิเศษซึ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ใช้เวลาอยู่นอกพื้นที่ที่หนาวเย็น

เนื่องจากมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุมากกว่าในสภาพอากาศฤดูหนาว นักท่องเที่ยวควรมีประกันการเดินทางที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมกีฬาฤดูหนาวหรือกิจกรรมเพิ่มเติมที่จะไปเข้าร่วมด้วย แม้ว่าระบบดูแลสุขภาพของญี่ปุ่นนั้นยอดเยี่ยม แต่การถูกเรียกเก็บเงินหลายล้านเยนเมื่อคุณกลับบ้านจะทำให้ความทรงจำที่ดีของการเดินทางเที่ยวนั้นเปลี่ยนไปเลยค่ะ

ข้อควรระวังสำหรับผู้ขับขี่

เป็นสิ่งสำคัญมากที่ผู้ขับขี่จะต้องคุ้นเคยกับการขับรถบนหิมะหรือพื้นน้ำแข็ง รวมทั้งต้องดูแลให้ยานพาหนะของตนได้รับการติดตั้งอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับสภาพอากาศ การติดตั้งยางสำหรับฤดูหนาวช่วยให้ยึดเกาะถนนได้ดียิ่งขึ้น ช่วยให้การขับขี่บนหิมะ น้ำแข็ง และฝน รวมไปถึงถนนที่แห้งและเย็นเป็นไปอย่างราบรื่นขึ้น เนื่องจากถนนในประเทศญี่ปุ่นได้รับการบำรุงรักษาเป็นอย่างดีและมีการกวาดหิมะบ่อยครั้ง จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ผู้มาเยือนจะต้องขับรถท่ามกลางหิมะตกหนัก เว้นแต่จะออกไปนอกเส้นทาง (ออฟโรด) ตามบริเวณที่ตั้งแคมป์ อย่างไรก็ตาม หากจำเป็น โซ่หิมะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม โดยมีป้ายบอกตามถนนที่เต็มไปด้วยหิมะพร้อมพื้นที่พิเศษให้แวะไปจอดและติดตั้งโซ่ค่ะ

ระบบเตือนพายุหิมะของญี่ปุ่น

สำนักอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นจัดทำคำเตือนสภาพอากาศและคำแนะนำล่าสุดทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ คุณยังสามารถดูข่าวท้องถิ่นและตรวจสอบการอัปเดตสภาพอากาศออนไลน์เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผลแม้จะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่นหรือมีคนญี่ปุ่นช่วยแปลให้ก็ตาม

ระบบ J-Alert

ระบบเตือนภัยล่วงหน้าของญี่ปุ่นสำหรับภัยธรรมชาติเรียกว่า J-Alert และใช้ในกรณีแผ่นดินไหว สึนามิ ไต้ฝุ่น และพายุหิมะ รวมไปถึงเหตุการณ์รุนแรงอื่น ๆ ระบบดาวเทียมช่วยให้รัฐบาลสามารถเตือนผู้อยู่อาศัยในเหตุฉุกเฉินที่ใกล้เข้ามา พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังที่จำเป็น ซึ่งทำได้โดยใช้ลำโพงตามท้องถนน สถานีกระจายเสียงระดับประเทศ เช่น NHK สำหรับการออกอากาศทางโทรทัศน์และวิทยุ การแจ้งเตือนทางโทรศัพท์ และอีเมล สำหรับเหตุฉุกเฉินที่สำคัญ (ไม่เกี่ยวกับสภาพอากาศ) ยังจัดทำใน 5 ภาษา: ญี่ปุ่น อังกฤษ จีนกลาง เกาหลี และโปรตุเกส ส่วนคำเตือนสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น คำเตือนสำหรับพายุหิมะ จะออกอากาศเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น

ความเสียหายที่เกิดจากพายุหิมะในญี่ปุ่น

แม้ว่าสิ่งปลูกสร้างหลายแห่งในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยหิมะจะถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับหิมะที่ตกหนัก แต่ก็ยังอาจเกิดการหยุดชะงักและความเสียหายที่เกิดจากพายุหิมะได้

• ปัญหาในการคมนาคมขนส่งและการเข้าถึงถนนหนทางที่ถูกจำกัด
• โดนหิมะปิดทางเข้าออกจนต้องอยู่แต่ในบ้านหรือโรงแรม
• รถติดหิมะและขับไปไหนไม่ได้
• โรงเรียนและสำนักงานปิดหลายวัน
• ไฟฟ้าดับหรืออินเทอร์เน็ตดับระหว่างและหลังหิมะตกหนัก
• ความเสียหายต่ออาคารเก่าเนื่องจากหิมะตกหนัก เช่น หลังคาถล่ม
• ต้นไม้อาจล้มจนทำให้ได้รับบาดเจ็บ อาคารเสียหาย หรือกีดขวางถนน
• ท่อส่งน้ำอาจแข็งตัวหรือแตกเนื่องจากอุณหภูมิต่ำ ทำให้ไม่ได้รับน้ำประปา
• รถยนต์อาจสูญเสียการควบคุมในพายุหิมะเนื่องจากทัศนวิสัยต่ำหรือพื้นถนนลื่นทำให้เกิดอุบัติเหตุ

คำแนะนำสำหรับการเผชิญพายุหิมะ

สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำเมื่อเผชิญกับพายุหิมะคือการหาที่พักพิงที่เหมาะสม ไม่ว่าคุณจะเดินป่า อยู่ที่บ้าน หรือกำลังขับรถ สิ่งสำคัญคือต้องหาโครงสร้างที่แข็งแรงเพียงพอและอบอุ่นพอจนอยู่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหิมะที่ตกหนัก ผู้คนอาจติดอยู่ในบ้านของตัวเองจากทางเข้าที่ถูกหิมะปิดกั้น ในการเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์นี้ สิ่งสำคัญคือต้องมีเสบียงพิเศษไว้ เช่น อาหาร น้ำ และถุงทำความร้อนในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับ การกวาดหิมะออกก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งแต่ต้องใช้กำลังมาก และควรทำในช่วงเวลาสั้น ๆ โดยควรเว้นช่วงพักผ่อนด้วย เพราะอาจทำให้หัวใจวายได้ในอัตราที่น่าตกใจ ถ้าเป็นไปได้ก็แนะนำให้อยู่ภายในอาคารจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น

หากคุณกำลังขับรถอยู่ในภูมิภาคที่มีหิมะตก สิ่งสำคัญคือต้องมีกระเป๋าสัมภาระฉุกเฉินในรถของคุณ รวมทั้งพลั่ว เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น ผ้าห่มเสริมความร้อน เสบียงอาหาร น้ำ ที่อุ่นมือ ไฟฉาย เครื่องละลายน้ำแข็ง และชุดปฐมพยาบาล หากติดอยู่ในรถท่ามกลางหิมะสูง ขอแนะนำว่าให้ทุกคนอยู่ในรถของตนจนกว่าความช่วยเหลือจะมาถึง เนื่องจากทัศนวิสัยอาจต่ำ และการเอาตัวรอดภายนอกนั้นมีความยากกว่ามาก เนื่องจากเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ อุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ หรืออาการบวมเป็นน้ำเหลืองจากน้ำแข็งกัด หากรถติดอยู่ในหิมะ การใช้เสื่อรองใต้ล้อรถสามารถช่วยให้รถมีแรงฉุดลากเหนือพื้นที่ลื่นได้ แต่ควรใช้ยางหรือโซ่สำหรับลุยหิมะจะดีกว่าค่ะ