ราเมงเป็นอาหารญี่ปุ่นที่คนทั้งโลกรู้จักและยังเป็นอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นเองอีกด้วย จนในปี 1993 ได้มีการตั้งพิพิธภัณฑ์ราเมงขึ้นที่เมือง Shin-Yokohama จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์คือการรวบรวมร้านราเมงเจ้าอร่อยจากทั่วญี่ปุ่นมาไว้ที่นี่ โดยมีร้านราเมงจาก 9 ร้านดังในญี่ปุ่น เช่น Hakata Kumamoto Sapporo และ Tokyo หมุนเวียนสลับกันไป โดยมีสไตล์การตกแต่งที่เป็นเอกลักษณ์แบบเรทโทรพานึกย้อนไปถึงวันวานของสมัยโชวะ ปีค.ศ. 1926-1989 แต่ละร้านจะมีราเมงให้ชิมด้วยนะคะ จะมาเป็นแบบโพชั่นเล็กๆ พอเรียกน้ำย่อย ซี่งช่วยให้เราสามารถชิมร้านอื่นได้อีกหลายๆร้านเลยค่ะ เราเคยได้ยินชื่อของพิพิธภัณฑ์นี้มานานแล้วแต่ยังไม่เคยมีโอกาสได้มาสักที วันนี้ฤกษ์ดีมีเพื่อนมาเยี่ยมเราที่ญี่ปุ่น เลยได้โอกาสลากเพื่อนมาเที่ยวที่นี่ซะเลย
พิพิธภัณฑ์ราเมงอยู่ห่างจากสถานีรถไฟใต้ดิน Shin-Yokohama เพียง 5 นาทีเท่านั้นเองค่ะ เพียงแค่เห็นการตกแต่งภายนอกของพิพิธภัณฑ์ก็ชวนตื่นเต้นแล้ว ข้างๆกับทางเข้าพิพิธภัณฑ์มีถ้วยราเมงชามใหญ่ที่ภายในชามจะขยับขึ้นๆ ลงๆ ได้อีก ที่น่าประทับใจคือค่าเข้าชมไม่แพงเลยค่ะ ซึ่งมีราคาเพียง 310 เยนสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้นเอง พิพิธภัณฑ์นี้มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยชั้นแรกที่เราไปคือชั้นใต้ดินที่มีทั้งร้านราเมงและร้านของที่ระลึก
ที่ร้านราเมงแต่ละร้านจะมีป้ายบอกส่วนผสมของราเมง ซึ่งเราว่าการบอกส่วนผสมก็ดีต่อคนที่แพ้อาหารบางชนิดหรือบางคนที่ศาสนาเคร่งครัด หลังจากยืนมองเมนูมาพักนึง เราได้ตัดสินใจสั่งราเมงจากร้าน Kamurasaki ที่เป็นร้านเก่าแก่ของเมือง Kumamoto ที่อยู่ในภูมิภาค Kyushu หลายคนคงเคยเห็นเจ้าหมีตัวอ้วนสีดำแก้มแดงมาสมาสคอตหรือที่เรียกกันว่า Kumamon ใช่ไหมคะ เจ้าหมี Kumamonตัวนี้แหละคือมาสคอทประจำจังหวัด Kumamoto นั้นเองค่ะ ราเมงที่เราสั่งไปเป็นราเมงผักสำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติค่ะมีสาหร่ายทะแลละเนื้อเจแทนเนื้อสัตว์จริงๆ เสริฟด้วยไซส์ปกติ ราเมงที่สั่งมาก็อร่อยดีนะคะ เราว่ารสมันคล้ายๆกับแกงกระหรี่แล้วก็แอบมีความเผ็ดอยู่เล็กน้อย สรุปว่าแค่ชามนี้ชามเดียวก็อิ่มมากไปลองทานร้านอื่นไม่ไหวแล้วหละค่ะ
หลังจากบำรุงกำลังแล้ว ก็ถึงเวลาขึ้นมาชั้นถัดไปเพื่อหาความรู้บำรุงสมอง ด้านบนจะเป็นแกลอรี่เกี่ยวกับราเมง ซึ่งผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมสามารถมาศึกษาเรื่องราวประวัติศาสตร์ของราเมงได้ รวมไปถึงที่นี่ยังมีเครื่องครัวเครื่องใช้สำหรับรับประทานราเมงหลากหลายรูปแบบจากทั่วญี่ปุ่นมาให้นักท่องเที่ยวได้เพลินเพลินกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ นอกจากราเมงแล้ว ที่นี่ยังมีของใช้โบราณอื่นๆที่น่าสนใจ เช่น โทรศัพท์สาธารณะ ที่โบราณแต่ดูคลาสสิคสุดๆ ไปเลย รวมไปถึงยังมีร้านกาแฟและร้านขนมที่ตกแต่งแบบสมัยโชวะอีกด้วย ณ ตอนนั้นเรารู้สึกแหมือนได้นั่งไทม์แมชชีนท่องเวลากลับไปกินราเมงในสมัยโบราณเลยค่ะ ขอแนะนำว่าหากใครจะมาเที่ยวที่นี่ ควรเตรียมท้องไว้รอทานสุดยอดราเมงจากหลากหลายสถานที่ทั่วญี่ปุ่น ถ้าได้ชิมไม่ครบจะเสียใจไม่รู้ด้วยน้า
ค่าธรรมเนียมการเข้าชม :
ผู้ใหญ่ (13-60 ปี): 310 เยน
ผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) และเด็ก (6-12ปี): 100 เยน
เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี : ฟรี
ข้อมูลเพิ่มเติม:
เวลาทำการ: 11:00น. ถึง 22:00น. (วันอาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 10:30)
ปิด : พิพิธภัณฑ์จะปิดเมื่อต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุง
ที่อยู่: 〒222-0033 Kanagawa Prefecture, Yokohama, Kohoku Ward, Shinyokohama, 2-14-21
การเดินทาง: เดินจากสถานีรถไฟใต้ดิน Shin-Yokohama ประมาณ 5 นาที
Comments