ในอาซาคุระ คุณจะพบโบราณสถานมากมายที่หลงเหลือจากเหล่านักรบ ชาวเมือง และเกษตรกรที่อาศัยอยู่แถบนี้ในสมัยเอโดะ ตัวอย่างเช่น อาคิสึกิที่ยังคงสภาพแบบเมืองในอาณัติปราสาทสมัยเอโดะ กังหันน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น เป็นต้น นับเป็นจุดที่เดินทางสะดวกเพราะห่างจากฟุกุโอกะเพียง 1 ชั่วโมง ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่ผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของญี่ปุ่นต้องแวะเยี่ยมชมกัน
อาคิสึกิ เมืองในอาณัติปราสาทที่ยังคงสภาพเช่นเดิมแบบสมัยเอโดะ
อำเภออาซากุระตั้งอยู่ในแถบชิคุโกะทางตอนกลางและตอนใต้ของจังหวัดฟุกุโอกะ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปี พื้นที่ในเมืองแบ่งออกเป็นสามส่วนคร่าว ๆ ได้แก่ "พื้นที่อามากิ/อาคิสึกิ" (甘木・秋月 / Amagi-Akizuki), "พื้นที่ทาคากิ/อาซากุระ" (高木・朝倉 / Takaki-Asakura) และ "พื้นที่ฮาราสึรุ/ฮากิ" (原鶴・杷木 / Harazuru-Haki)
เมื่อใดก็ตามที่คุณเยี่ยมชมอำเภออาซาคุระ ก็ควรไปเยี่ยมชมพื้นที่อาคิสึกิอำเภออาซาคุระซึ่งสืบทอดส่วนที่เหลือของเมืองในอาณัติปราสาทที่พัฒนาโดยตระกูลคุโรดะในสมัยเอโดะกันดูให้ได้เลยเชียว
ที่นี่เป็นที่เดียวในญี่ปุ่นที่เมืองในอาณัติปราสาททั้งตัวเมืองถูกกำหนดให้เป็น "เขตอนุรักษ์สิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์" ระดับชาติ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า "เกียวโตน้อยแห่งชิคุเซ็น" ส่วนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในพื้นที่อาคิสึกิก็มีดังนี้
ประตูดำ คุโรมง (黒門 / kuromon)
"คุโรมง" ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นประตูหลังของปราสาทโคะโชซัน (古処山城 / koshosan-jo) ในสมัยคามาคุระ และต่อมาก็ได้กลายเป็นประตูหลักของปราสาทอาคิสึกิของตระกูลคุโรดะผู้ปกครองพื้นที่นี้ในสมัยเอโดะ วันนี้เป็นประตูหลัก (神門 / shinmon ชินมง) ของศาลเจ้าซุยโย (垂裕神社 / suiyou-jinjya) ซึ่งบูชาดวงวิญญาณผู้ครองแคว้นคนแรกของแคว้นอาคิสึกิของตระกูลคุโรดะ มีผู้คนมาเยี่ยมเยียนกันเป็นจำนวนมาก
ป้อมประตูเรือนยาว นางาโทยะ (長門屋 / nagatoya)
"นางาโทยะ" เดิมสร้างขึ้นในสมัยเอโดะตอนต้นเพื่อใช้เป็นประตูหลังของวังชั้นในของปราสาทอาคิสึกิ และมีลักษณะเด่นตรงที่มีเรือนยาวสำหรับให้ผู้เฝ้าประตูพักอาศัยตั้งอยู่ทั้งสองข้างของประตูนั่นเอง
สนามม้าต้นสุกิ สุกิโนะบาบะ (杉の馬場 / suginobaba)
ที่ถนนหน้าปราสาทอาคิสึกิมีแถวต้นซีดาร์ (สุกิ) เรียงรายอยู่ ที่ตรงนี้ถูกเรียกว่าบาบะ (สนามม้า) เพราะถูกใช้สำหรับฝึกขี่ม้าโดยเหล่าซามูไร ในสมัยเมจิ ชาวเมืองพากันปลูกต้นซากุระหนึ่งต้นต่อหนึ่งบ้าน ดังนั้นในฤดูใบไม้ผลิ คุณจึงสามารถเห็นต้นซากุระเรียงแถวบานสะพรั่งได้ ทำให้เป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงสำหรับการชมดอกซากุระด้วย
สะพานแว่นตา เมงาเนะบาชิ (眼鏡橋 / meganebashi)
สะพานเมงาเนะบาชินี้สร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1810 บนแม่น้ำโนโทริกาวะที่ไหลผ่านใต้ปราสาทอาคิสึกิ เป็นสะพานโค้งหินแกรนิตสไตล์ดัตช์ มีการปูด้วยคอนกรีตในสมัยโชวะตอนต้น แต่ได้รับการบูรณะให้กลับไปมีลักษณะดั้งเดิมในปี 2006
กังหันน้ำที่ยังใช้งานได้ที่เก่าแก่ที่สุดของญี่ปุ่น
ในพื้นที่ทาคากิ/อาซากุระ คุณสามารถเห็นชุดกังหันน้ำกลุ่มหนึ่งซึ่งกล่าวกันว่าเป็นกังหันน้ำที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น
ในอำเภออาซาคุระ มีคลองผันน้ำ โฮริคาวะโยซุย (堀川用水 / Horikawa Yosui) ซึ่งเปิดขึ้นเพื่อเป็นคลองชลประทานในสมัยเอโดะ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี 1664 น้ำเพื่อการชลประทานนี้ได้มีการสร้างกังหันสูบน้ำซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1760 ถึงปี 1780 จนแล้วเสร็จ เพื่อส่งน้ำไปยังนาข้าวที่อยู่บนที่สูงกว่าแหล่งน้ำ
ปัจจุบันมีกังหันน้ำอยู่สามแห่งในเมือง โดยมีชื่อเรียกว่า ฮิชิโนะซุยฉะ (菱野水車 / Hishino suisha) มิชิมะซุยฉะ (三島水車 / Mishima suisha) และฮิซาชิเกะซุยฉะ (久重水車 / Hisashige suisha) ซึ่งตั้งตามชื่อหมู่บ้าน
กังหันมิชิมะและฮิซาชิเกะเป็นกังหันน้ำคู่ และกังหันฮิชิโนะเป็นกังหันน้ำสามวง
กังหันคลองผันน้ำที่สร้างแล้วเสร็จก็ยังคงใช้งานได้อยู่ในปัจจุบัน โดยจะทำงานตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนตุลาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูปลูกข้าว กังหันน้ำจะถูกสร้างขึ้นใหม่ทุก ๆ ห้าปีโดยช่างฝีมือท้องถิ่น ซึ่งเทคนิคการสร้างกังหันน้ำนี้ก็ยังคงสืบทอดต่อมาเรื่อย ๆ
กังหันน้ำสามวงฮิชิโนะก็ยังมีการเปิดไฟส่องสว่างในฤดูร้อนของทุกปีในช่วงเทศกาลโอบง คงเป็นการดีที่จะได้เห็นกังหันน้ำในมุมมองที่แสนอัศจรรย์แตกต่างจากในเวลากลางวันด้วยนะคะ
น้ำร้อนผิวสวย ฮาราสึรุออนเซ็น (原鶴温泉 / Harazuru Onsen)
น้ำพุร้อนของฮาราสึรุออนเซ็นในพื้นที่ฮาราสึรุ/ฮากินั้น ก็ได้รับการกล่าวขานว่าคุณสมบัติของน้ำมีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ ผสมกับกำมะถัน มีคุณสมบัติในการขจัดคราบเคราตินเก่าบนผิวและเผยผิวขาวใส
ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคมของทุกปี "การตกปลาด้วยนกกาน้ำแห่งแม่น้ำชิคุโกะ" หรือที่เรียกกันว่า อุไค (鵜飼 / ukai) จะจัดขึ้นบนเรือแบบมุงหลังคา หลังจากพักผ่อนในบ่อน้ำพุร้อนแล้ว การแวะไปชมอุไคก็ดีไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ
การเดินทางไปยังอำเภออาซากุระ
- 35 นาที จากสถานี JR Hakata ไปยังสถานี Kiyama บนสาย Kagoshima Main Line ใช้เวลาอีก 25 นาทีจากสถานี Kiyama ไปยังสถานี Amagi (amagi) โดยรถไฟ Amagi (amagi)
- 25 นาที จากสถานี Nishitetsu Fukuoka ไปยังสถานี Miyanojin บนสาย Omuta ใช้เวลาอีก 30 นาทีจากสถานี Miyanojin ไปยังสถานี Amagi โดยรถไฟ Amagi
- หากเดืนทางโดยรถยนต์ จากสถานีฟุกุโอกะ สถานี Hakata หรือสนามบินฟุกุโอกะ ใช้ทางเข้าทางหลวงอำเภอ Dazaifu IC ไปยังแยก Kyushu Tosu JCT แล้วเข้าทางด่วน Oita จากนั้นใช้ทางออกทางหลวง Amagi IC
เป็นยังไงกันบ้างคะ? ทางเราจะดีใจมากถ้าได้เผยแพร่ถึงเสน่ห์ของอำเภออาซาคุระให้คุณรับทราบกันค่ะ ซึ่งที่นี่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายที่ชวนให้นึกถึงชีวิตในสมัยเอโดะและวิถีชีวิตของซามูไร ลองไปเยี่ยมชมอำเภออาซาคุระกันดูสักครั้งนะคะ
Comments