ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะเป็นศาลเจ้าที่ตั้งอยู่ในอำเภอฟุคุสึ อยู่ระหว่างอำเภอเมืองฟุกุโอกะและอำเภอคิตะคิวชู ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 1,700 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง ในฐานะศาลเจ้าของเทพแห่งการเปิดดวงและค้าขายรุ่งเรือง ที่นี่มีผู้มาสักการะเป็นประจำ 2.2 ล้านคนต่อปี ทุกเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม "ถนนแห่งแสง" ที่ทอดยาวจากศาลเจ้าสู่ทะเลเก็นไคจะปรากฏขึ้น ภูมิทัศน์อันมีมนต์ขลังนี้เป็นที่รู้จักกันมากจากอิทธิพลของโฆษณา และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวจากนอกจังหวัดก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ประวัติศาสตร์ 1,700 ปีของศาลเจ้าที่บูชาเทพแห่งการเปิดดวงและค้าขายรุ่งเรือง
ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,700 ปี โดยบูชาเทพเจ้าดังต่อไปนี้: okinagara tarashihimeno mikoto (息長足比売命) หรือที่รู้จักในนาม jingu kougou (神功皇后) katsumurano ookami (勝村大神) และ katsuyorino ookami (勝頼大神)
ที่นี่เป็นศาลเจ้าหลักของศาลเจ้ามิยาจิดาเกะซึ่งได้รับการบูชาทั่วประเทศเพราะได้รับการเคารพบูชากันว่าเป็น "เทพเจ้าแห่งการเปิดดวงที่สามารถเอาชนะได้ทุกสิ่ง"
ที่ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ มีสุสานหินโบราณขนาดใหญ่ซึ่งถูกขุดพบขึ้นเมื่อประมาณ 300 ปีที่แล้ว สุสานฝังศพนี้คาดว่าจะสร้างขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 และมีถ้ำหินขุดบรรจุศพแบบหลุมแนวนอนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น พบวัตถุโบราณประมาณ 300 ชิ้นในถ้ำหินขุดบรรจุศพ โดย 20 ชิ้นถูกกำหนดให้เป็นสมบัติชาติ
ในบรรดาวัตถุโบราณนั้นยังมีหมวกแบบดั้งเดิมที่นักบวชชินโตลายมังกรและเสือสีทอง ดาบขนาดใหญ่ 3.2 เมตรที่ประดับโคนด้าม (คาบุสึจิ) ด้วยทองคำ และสิ่งของทองคำอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เองเทพในศาลเจ้านี้นี่จึงถูกยกย่องเป็นเทพแห่งการค้าขายรุ่งเรือง
"อันดับ 1 ในญี่ปุ่น" 3 อย่างในศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ
ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะมีสิ่งที่เป็นอันดับ 1 ในญี่ปุ่นถึง 3 อย่าง มาดูกันเลยค่ะ
อันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างแรกก็คือ เชือกถักขนาดยักษ์ โอชิเมะนาวะ (大注連縄 / ooshimenawa) ซึ่งแขวนอยู่ที่เรือนสักการะ มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.6 เมตรและยาว 11 เมตร ทุกปีจะมีการทำชิเมะนาวะใหม่โดยมัดฟางจากข้าวที่ปลูกในนาข้าวของศาลเจ้า (御神田 โอมิตะ นาข้าวที่ศาลเจ้าเป็นเจ้าของ) ซึ่งมีพื้นที่ 2 ตัน (反 = ประมาณ 1980 ตารางเมตร) โดยมีผู้คนกว่า 1,500 คนซึ่งมีความใกล้ชิดกับศาลเจ้ามิยาจิดาเกะร่วมกันอาสามาทำชิเมะนาวะ
อันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างที่สองก็คือกลองขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2.2 เมตร ถือเป็นกลองที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่ทำจากวัสดุภายในประเทศทั้งหมด ตัวกลองทำจากไม้ไซเปรส (ฮิโนกิ) ในประเทศ พร้อมเคลือบเงาหลายชั้นบนพื้นผิว หนังที่ใช้สำหรับกลองไทโกะคือหนังของวัวญี่ปุ่นที่มีการฟอกเพื่อทำกลองไทโกะโดยเฉพาะ
อันดับหนึ่งในญี่ปุ่นอย่างที่สามก็คือระฆังทองแดงที่มีน้ำหนัก 450 กิโลกรัม ในอดีตเคยถูกจัดแสดงในเรือนสักการะพร้อมกับชิเมนาวะขนาดใหญ่ แต่ตอนนี้ได้มีการการทำหอระฆัง (鈴堂 / Suzudo) เป็นของตัวเองเพื่อเก็บรักษาระฆังนี้
ชม "ถนนแห่งแสง" ได้สองครั้งต่อปีในเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคม
"ถนนแห่งแสง" ได้ถูกแนะนำจนเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศด้วยโฆษณาจากกลุ่มไอดอล "อาราชิ"
คุณสามารถมองเห็น "ถนนแห่งแสง" ได้ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์และช่วงสิ้นเดือนตุลาคม เป็นเพียงช่วงเวลา 2 ครั้งในรอบปีที่คุณสามารถมองเห็นถนนแห่งแสงที่ทอดยาวไปจนถึงทะเลเก็นไคจากศาลเจ้า ยาวไปจนถึงเกาะไอโนะชิมะที่อยู่ไกลออกไปได้
ในช่วงที่สามารถเห็นถนนแห่งแสงช่วงเดือนตุลาคมนั้น จะมีงานที่เรียกว่า Tsukushi Dance (奉納ツクシ神舞) มีการเต้นรำ 2 แบบที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ ได้แก่ Tsukushi Kanmai (ツクシ神舞) ที่แสดงโดยเหล่าผู้ดูแลศาลเจ้า และ Yaotome Mai (八乙女舞) ที่แสดงโดยผู้หญิง
เพลิดเพลินไปกับถนนเข้าศาลเจ้า
มีของบางอย่างที่คุณต้องลองให้ได้รออยู่ตามทางเข้าศาลเจ้า หนึ่งในนั้นคือ มัตสึกาเอะโมจิ (松ケ枝餅 / matsugae mochi) ซึ่งสามารถพบได้ตามร้านค้าต่าง ๆ ริมถนนทางเข้าศาลเจ้าค่ะ! มี 2 แบบคือ "ชิโระ" และ "โยโมงิ" อาจมีแบบอื่น ๆ อีกซึ่งจะแตกต่างกันไปแล้วแต่ร้านที่ขาย ดังนั้นอย่าลืมลองชิมดูหลาย ๆ แบบเท่าที่จะหาได้นะคะ!
ร้านค้าหลายแห่งตามทางเข้าศาลเจ้านี้ยังขายของที่ระลึกที่กล่าวกันว่าจะช่วยนำพาการเปิดโชคและค้าขายรุ่งเรืองด้วย ดังนั้นการซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านก็เป็นความคิดที่ดีเลยค่ะ!
การเดินทางไปยังศาลเจ้ามิยาจิดาเกะ
- โดยรถไฟ: ลงที่สถานี JR Fukuma - นั่งแท็กซี่ 5 นาที, เดิน 25 นาที หรือขึ้นรถบัส Nishitetsu Express Bus Service จากหน้าสถานี
- โดยรถยนต์ผ่านทางด่วน:
- มุ่งหน้าไปยังฟุกุโอกะโดยลงที่ทางแยกทางด่วน Kyushu Expressway Koga Interchange
- มุ่งหน้าไปทางคิตะคิวชูโดยลงที่ทางแยกทางด่วน Kyushu Expressway Wakamiya Interchange
- ใช้ทางหลวงสาธารณะ:
- 50 นาทีบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3 จากเท็นจิน ฟุกุโอกะ
- 70 นาทีบนทางหลวงหมายเลข 3 จากโคกะ คิตะคิวชู
เป็นยังไงบ้างคะ? ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะเป็นที่รู้จักของคนในท้องถิ่นมาช้านานในฐานะเทพแห่งการเปิดดวงนำโชคและค้าขายรุ่งเรือง แต่ศาลเจ้าแห่งนี้ก็โด่งดังไปทั่วประเทศเนื่องจาก "ถนนแห่งแสง" นี่เป็นปรากฏการณ์ที่สามารถพบเห็นได้เฉพาะในช่วงเดือนกุมภาพันธ์และตุลาคมเท่านั้น แต่ถ้าคุณบังเอิญมาฟุกุโอกะในช่วงเวลาดังกล่าว อย่าลืมแวะไปที่ศาลเจ้ามิยาจิดาเกะกันนะคะ
Comments