โคจิเป็นจังหวัดเล็กๆ ของภูมิภาคชิโคคุ ซึ่งทั้งเมืองมีประชากรเพียง 300,000 คนเท่านั้น จังหวัดโคจิเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย แต่อยากเที่ยวให้เต็มอิ่ม เพราะที่นี่มีหลากหลายทัศนียภาพและกิจกรรมที่ทำให้คุณได้รู้สึกเพลิดเพลิน ด้วยภูมิประเทศที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและส่วนหนึ่งเคยเป็นเมืองเกษตรกรรมหลักของประเทศมาก่อน คุณจะได้สัมผัสถึงการผสมผสานระหว่างความเป็นเมืองและกลิ่นอายของความเป็นชนบท รวมถึงที่นี่ยังเป็นสวรรค์ย่อมๆของคนรักต้นไม้เพราะมีสวนพฤกษศาสตร์ที่มีพรรณไม้กว่าพันชนิด รวมถึงยังเป็นเมืองที่มีเรื่องเล่าขานและตำนานมากมายที่รับรองว่ามาเที่ยวโคจิแล้วคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
การเดินทางมาจังหวัดโคจิ
ที่นี่มีสนามบินเล็กๆ ที่ชื่อว่า สนามบิน Kochi Ryoma ที่จะมีรองรับเครื่องบินจากภายในประเทศจาก Tokyo Fukuoka และ Osaka
หรือถ้าหากคุณประทับใจในความดีงามของรถไฟญี่ปุ่นแล้วหละก็ คุณสามารถขึ้นรถไฟสาย JR Dosan ที่จะออกจากสถานี Okayama บนเกาะ Honshu หรือคุณอาจจะเดินทางด้วยรถไฟด่วน Nanpu Limited Express จากสถานี Okayama ด้วยราคาเพียง ¥5990 และใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ
สถานที่ท่องเที่ยว
ปราสาทโคจิ (Kochi Castle)
ปราสาทโคจิ ถือว่าเป็นปราสาทสีขาวเพียงไม่กี่แห่งที่ยังหลงเหลืออยู่ในญี่ปุ่น คุณสามารถเดินชมรอบๆ ตัวปราสาทได้ฟรี แต่ถ้าต้องการเข้าไปชมความงามด้านในจะเสียค้าเข้าชม ¥400 แต่ขอแนะนำเลยค่ะว่า ต้องขึ้นไปด้านบนของปราสาทให้ได้ เพราะทัศนียภาพที่เห็นจากด้านบนปราสาทนั้นจะต้องสะกดสายตาคุณทุกคนแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิวทิวทัศน์ในช่วงใบไม้ผลิ
สะพานฮาริมายาบาชิ (Harimayabashi Bridge)
มีเรื่องเล่าขานเกี่ยวกับสะพานแห่งนี้ เป็นเรื่องราวความรักต้องห้ามระหว่างพระสงฆ์และสาวชาวบ้านคนหนึ่ง ทั้งคู่แอบมีความรู้สึกดีๆ ให้แก่กัน แต่ก็ทำอย่างต้องหลบๆ ซ่อนๆ วันหนึ่งพระสงฆ์ได้ซื้อปิ่นปักผมที่ร้านค้าแถวๆ สะพานเพื่อเป็นตัวแทนความรักให้แก่หญิงสาว และเกิดมีคนไปรู้เข้า ทำให้ทั้งสองถูกขับไล่ออกจากเมือง และนี่ได้กลายมาเป็นตำนานของสะพานไม้น่ารักสีแดงมาจนถึงทุกวันนี้
Chikyu 33 Banchi
ถือว่าเป็นสถานที่เพียง 10 แห่งในโลกเท่านั้นที่จะตั้งอยู่บนละติจูดที่มีเลขเหมือนกันทั้ง 6 ตำแหน่ง ซึ่ง Chikyu 33 Banchi ตั้งอยู่บนตำแหน่งที่ละติจูดที่ 33*33’33’’ และลองติจูดที่ 133*33’33’’ ลองมาเหยียบที่นี่สักครั้งสิคะ แล้วจะพบสิ่งที่น่าสนใจหลายอย่าง
สวนพฤกษศาสตร์มาคิโนะ (Kochi Prefectural Makino Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์มาคิโนะเปรียบเสมือนสวรรค์ย่อมๆของคนรักต้นไม้ ที่จะตื่นตาเพลินเพลินกับพฤกษากว่า 1,500 ชนิด สวนแห่งนี้ได้สร้างเพื่ออุทิศให้แก่ ดร.โทมิทาโร มาคิโนะ (Tomitaro Makino) นักพฤษศาสตร์ผู้มีคุณานุคุณของญี่ปุ่น สวนแห่งนี้ถูกแบ่งเป็นอีก 6 สวนย่อยๆ และมีค่าเข้าชมเพียง ¥500 เท่านั้นเอง
ภูเขาโกไดซัง (Mount Godaisan)
ภูเขาโกไดซัง เป็นชื่อของภูเขาที่อยู่ในเขตดาวทาวน์ของจังหวัดโคจิ ชื่อโกไดตั้งตามชื่อของพระสงฆ์รูปหนึ่งที่มาจากเมืองจีน บนเขามีวัดชิคุรินจิ (Chikurinji) ซึ่งเป็นวัดที่มีเจดีย์ห้าชั้นอันงดงามควรค่าแก่การมาชมและมาสักการะสิ่งศักสิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคลยิ่งนัก
ช้อปปิ้งและร้านค้าปลอดภาษี
สินค้าพื้นเมือง
ของฝากยอดนิยมจากจังหวัดโคจิที่นักท่องเที่ยวนิยมหยิบติดไม้ติดมากลับไปคือ Katsuobushi หรือ ปลาแห้งโบนิโตะ ทำมาจากปลาโอ แล้วนำไปอบแห้ง ปลาแห้งโบนิโตะจึงเป็นอาหารแห้งที่อร่อยและทานง่าย มักจะพบเห็นเสมอเปรียบเสมือนเป็นท็อปปิ้งสำคัญของมื้ออาหาร ซึ่งคุณสามารถหาซื้อได้ทั่วไปในเมือง
AEON Mall (อิออนมอลล์)
หากอยากช้อปปิ้งแบบสบายๆในโคจิ ที่สามารถหาซื้อทุกอย่างได้ในที่เดียว AEON Mall เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณแน่นอนค่ะ ที่นี่มีขายทุกอย่าง รวมถึงร้านค้าแบรนด์ญี่ปุ่น อย่าง Muji เสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า และเฟอร์นิเจอร์ ห้างอิออนจะเปิดบริการตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึง 5 ทุ่มทุกวันเลยค่ะ
การเดินทางแบบสบายกระเป๋า
การเที่ยวรอบๆโคจิแบบสบายกระเป๋านั้นไม่ยากเลยค่ะ ที่นี่มีบริการรถบัส My-Yu ที่มีต้นสายอยู่ที่สถานีรถไฟ JR Kochi โดยค่าโดยสารแบบ day pass จะราคาประมาณ ¥900 เท่านั้นเอง
ช่วงเวลาที่แนะนำในการมาเยือนโคจิ
ช่างโชคดีว่าโคจิเป็นที่ที่สามารถมาเยือนได้ทุกฤดูกาล ซึ่งแต่ละฤดูก็จะมีสภาพอากาศ ทัศนียภาพ ที่สวยงามแตกต่างกันอย่างชัดเจน ดังนั้นหากจะมาเที่ยวโคจิ คุณก็ตัดสินใจเองเลยค่ะว่า ชอบบรรยากาศแบบไหน
ฤดูใบไม้ผลิ
ใครอยากเห็นดอกซากุระแล้วอยากสัมผัสอากาศเย็นนิดๆ ให้มาเที่ยวโคจิในช่วงเดือน มีนาคมจนถึงเดือน พฤษภาคมเลยค่ะ ดอกซากุระกำลังบานสีชมพูสะพรั่งสวยเชียวแหละ ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ดอกไม้กำลังผลิบาน อากาศก็กำลังเปลี่ยนจากหนาวจัดเป็นอากาศที่เย็นแบบสบายๆ
ฤดูร้อน
หากคุณอยากได้รูปสวยๆ สดใส มองทางไหนก็สดชื่น มีดอกไม้หลากสี ให้มาเที่ยวในช่วงกลางปีสักหน่อย หรือประมาณเดือน มิถุนายน จนถึง สิงหาคม อากาศที่นี่จะค่อนข้างอบอุ่น (จนถึงร้อนมาก) ฤดูร้อนก็ยังเหมาะที่สุดสำหรับการมาเที่ยวทะเลฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ที่จะสะท้อนกับแสงแดดสวยงามระยิบระยับเลยทีเดียวค่ะ
ฤดูใบไม้ร่วง
ถือว่าช่วงฤดูใบไม่ร่วงเป็นช่วงที่อากาศกำลังสบายๆ ที่สุดช่วงหนึ่งเช่นกันค่ะ หากมาที่นี่ในช่วงเดือนกันยายนจนถึงเดือนพฤศจิกายน เหล่าต้นไม้น้อยใหญ่ก็กำลังเริ่มผลัดใบ บางชนิดจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม แดง สร้างความสวยงามแก่ผู้พบเห็น หรือต้นไม้บางชนิดก็สละใบทิ้งร่วงลงไปหมดแล้วเหลือแต่ลำต้นที่ชูแต่กิ่งก้าน สร้างความเพลินตาไม่แพ้กันเลยค่ะ และแน่นอนว่าช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ค่อนข้างคึกคัก เพราะคนญี่ปุ่นเองก็เที่ยวโคจิช่วงนี้เหมือนกันค่ะ
ฤดูหนาว
ฤดูหนาวก็ค่อนข้างหนาวสุดๆ ไปเลย กิจกรรมที่เหมาะที่สุดกับอากาศหนาว ส่วนใหญ่ก็คือการจัดทริปขึ้นเขาไปเล่นสกี หากคุณอยากมาเล่นสกี สโนว์บอร์ด หรือสัมผัสกับหิมะหนานุ่มแล้วหละก็ ต้องมาโคจิในช่วงเดือน ธันวาคม ถึงเดือนกุมภาพันธ์เลยค่ะ
Comments