5 สุนัขสายพันธุ์ญี่ปุ่นอันแสนยอดเยี่ยมที่ควรรู้จัก

คุณรู้จักสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่นกี่สายพันธุ์? เรามั่นใจว่าต่อให้คุณจะไม่ใช่แฟนตัวยงของญี่ปุ่น คุณก็คงจะรู้จักกับพันธุ์อาคิตะและชิบะกันใช่ไหมละคะ? แต่คุณเคยได้ยินชื่่อสุนัขพันธุ์ฮอกไกโด พันธุ์โทสะ หรือพันธุ์สแปเนียลญี่ปุ่นกันบ้างไหม? ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงสุนัข 5 สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดในญี่ปุ่นที่เราคิดว่าคุณควรจะไปรู้จักกันไว้ค่ะ!

สุนัขพันธุ์อาคิตะ

หากคุณเคยไปที่จุดนัดพบยอดนิยมในชิบูย่าที่มีรูปปั้นสุนัขผู้ซื่อสัตย์ที่เรียกกันว่า ฮาจิโค*  นั่นแหละค่ะ สุนัขพันธุ์อาคิตะ! เรื่องราวของฮาจิโคถูกแปลงเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดผ่าน "Hachi: A Dog's Tale" ซึ่งทำให้เรื่องราวเป็นที่ดึงดูดใจไปทั่วโลก นักสเก็ตลีลา Alina Zagitova ยังทำให้เกิดกระแสความสนใจต่อสุนัขพันธุ์อาคิตะในการแสดงของเธอในปี 2018 ซึ่งในตอนนั้นเธอได้รับสุนัขพันธุ์อาคิตะเป็นของขวัญค่ะ เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมทั้งในอเมริกาและไต้หวันด้วย

*ชื่อจริง ๆ คือ "ฮาจิ" ส่วน "โค" นั้น เดิมเป็นคำต่อท้ายชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้ที่ถูกพูดถึง ปัจจุบันใช้เรียกเป็นชื่อเล่นที่แสดงความรัก

ประวัติความเป็นมา

ในช่วงปี 1630 สุนัขพันธุ์อาคิตะถูกเลี้ยงไว้ใช้งานเป็นสุนัขล่าสัตว์ในภูมิภาคโทโฮคุของญี่ปุ่น เดิมทีเป็นสุนัขขนาดกลาง แต่เพื่อช่วยสร้างขวัญและกำลังใจของทหารในช่วงเวลานั้น สุนัขพันธุ์นี้เลยถูกใช้ในการดวลสุนัข ซึ่งในที่สุดก็ส่งผลให้พวกมันถูกคัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จนกลายร่างเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ขึ้น

ลักษณะและอุปนิสัย

พันธุ์อาคิตะมีโครงที่แข็งแกร่ง เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่ใหญ่ที่สุดที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น จังหวะการเดิน รูปลักษณ์ และท่าทางการเคลื่อนไหวล้วนให้ความรู้สึกที่แข็งแกร่ง

ตามในภาพยนตร์ Hachi: A Dog's Tale ที่กล่าวไว้ข้างต้น สายพันธุ์นี้มีความจงรักภักดีต่อเจ้านายมาก พันธุ์อาคิตะยังมีนิสัยเยือกเย็นและสุขุม อีกทั้งยังจดจำสิ่งที่สอนได้ดีด้วย ทำให้เป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงกัน สิ่งสำคัญคือต้องคอยแปรงฟันให้ และให้โอกาสพวกเขาได้ออกกำลังกายทุกวัน แม้จะเป็นแค่ช่วงสั้น ๆ ก็ยังดี

สีขน

มี 4 ชนิด คือ สีแดง (ส้ม+ขาว) สีเสือโคร่ง (ลายพาดขวาง) สีขาว และสีเมล็ดงา (ส้ม+ขาว+น้ำตาล)

สุนัขพันธุ์ชิบะ

นี่คือสุนัขสายพันธุ์ที่เกิดปรากฏการณ์กระแสนิยมไปทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ แม้แต่ในช่อง SNS ภาษาอังกฤษ คุณจะเห็นภาพเจ้า "Shiba Inu" ถูกใช้เป็นประจำ เช่นในมีม Doge ที่ปัจจุบันก็ใช้เป็นโลโก้ใน Dogecoin

ในภาพยนตร์เรื่อง "Hachi: A Dog's Tale" ที่กล่าวถึงข้างต้น สุนัขในเรื่องนั้นเป็นสุนัขพันธุ์อาคิตะ อย่างไรก็ตาม ในฉากตอนที่ฮาจิยังเป็นลูกสุนัข ในการถ่ายทำนั้นก็ใช้สุนัขพันธุ์ชิบะแสดงแทน ว่ากันว่า การได้เห็นภาพลูกสุนัขอันแสนน่ารักตัวนี้ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมในต่างประเทศ ทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

นอกจากนี้ สุนัขชิบะยังชนะรางวัลที่หนึ่งในงานแสดงสุนัขของอังกฤษในปี ค.ศ. 2012 ซึ่งช่วยขยายขอบเขตความรู้ของผู้คนที่มีต่อสุนัขชิบะให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น

ประวัติความเป็นมา

ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นสมบัติชาติทางธรรมชาติของญี่ปุ่นในปี 1936 เป็นสุนัขขนาดเล็กที่ถูกค้นพบครั้งแรกในพื้นที่ภูเขารอบ ๆ เกาะฮอนชูและชิโกกุ

ลักษณะและอุปนิสัย

พันธุ์ชิบะมีโครงที่หนักแน่น แต่การเคลื่อนไหวของพวกมันกลับดูพริ้วไหวและน่ารักมาก ๆ เดิมทีอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูง นั่นก็หมายความว่าสุนัขพันธุ์ชิบะนั้นมีความอดทนสูงและยังกล้าหาญมาก พวกมันมักจะระแวดระวังสภาพแวดล้อมรอบตัวอย่างมาก จึงมักถูกใช้เป็นสุนัขเฝ้าบ้าน เช่นเดียวกับสุนัขพันธุ์อาคิตะ การแปรงฟันและเปิดโอกาสให้พวกมันได้ออกกำลังกายทุกวันก็เป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

สีขน

มี 5 ชนิด คือ สีแดง (ส้ม+ขาว) สีน้ำตาลดำ สีเมล็ดงา (ส้ม+ขาว+น้ำตาล) สีเมล็ดงาแดง (น้ำตาล+ส้ม+ขาว) และสีเมล็ดงาดำ (ดำ+ขาว)

สุนัขพันธุ์ฮอกไกโด

มีโฆษณาของบริษัทโทรคมนาคมของญี่ปุ่นแห่งหนึ่งซึ่งให้สุนัขสายพันธุ์นี้เล่นบทเป็นพ่อในครอบครัว

ประวัติความเป็นมา

สุนัขสายพันธุ์นี้ถูกเลี้ยงโดยชาวพื้นเมืองในพื้นที่ฮอกไกโดให้เป็นสุนัขล่าสัตว์ แต่เนื่องจากโฆษณาที่กล่าวไปในข้างต้น สุนัขพันธุ์นี้จึงมีภาพลักษณ์ว่าเป็นสุนัขครอบครัวมากกว่าที่จะสุนัขล่าสัตว์ในปัจจุบัน

ลักษณะและอุปนิสัย

สุนัขพันธุ์ฮอกไกโดมีขนหนา และมักจะแสดงสีหน้าท่าทางอย่างเรียบง่าย มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ และโดยทั่วไปแล้วจะมีบุคลิกที่กล้าหาญ โครงร่างของพวกมันอาจกล่าวได้ว่ามาจากสุนัขเลี้ยงสายพันธุ์แรก ๆ และพวกมันก็ระมัดระวังตัวมาก แม้ว่าสุนัขพันธุ์ฮอกไกโดจะทุ่มเทให้กับเจ้านายของพวกเขา แต่เนื่องจากเดิมทีเป็นสุนัขล่าสัตว์ จึงมีบางครั้งที่พวกเขาอาจจะแสดงความก้าวร้าวเล็กน้อยต่อคนหรือสัตว์อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของ ซึ่งก็หมายความว่า การสั่งสอนพวกเขาตั้งแต่อายุยังน้อยก็เป็นที่สิ่งสำคัญมาก

สีขน

มี 5 สี ได้แก่ สีเมล็ดงา (ส้ม+ขาว+น้ำตาล) สีเสือโคร่ง (ลายพาดขวาง) สีแดง สีน้ำตาลดำ และสีขาว (ครีม)

สุนัขพันธุ์โทสะ

หากคุณพูดคุยกับคนญี่ปุ่นเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์โทสะ หรือที่เรียกว่าสุนัขชิโกกุ สิ่งแรกที่มักจะผุดขึ้นในหัวก็คือใบหน้าที่แข็งทื่อและโครงที่ใหญ่ อย่างไรก็ตาม สุนัขพันธุ์โทสะมีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน ลองมาดูว่าอะไรที่ทำให้ทั้ง 2 ประเภทแตกต่างกัน

ประวัติความเป็นมา

สุนัขพันธุ์นี้มีพื้นเพมาจากแถบโทสะในภูมิภาคชิโกกุ (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อว่า จังหวัดโคจิ) เดิมทีพวกมันเป็นสุนัขขนาดกลางที่ดูเหมือนหมาป่ามาก

พวกมันถูกใช้เป็นสุนัขต่อสู้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่านักรบญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงมีการเพาะพันธุ์ให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้น จากการผสมข้ามพันธุ์กับสายพันธุ์จากต่างประเทศ เช่น อิงลิชมาสทิฟฟ์ บูลด็อก และเกรทเดนส์ สายพันธุ์นี้จึงมีลักษณะดังที่เราพบเห็นได้ในปัจจุบัน

ลักษณะและอุปนิสัย

สุนัขพันธุ์นี้มีร่างกายกำยำล่ำสัน แข็งแรง น่าเกรงขาม และมีโครงที่ใหญ่มาก มีกะโหลกศีรษะกว้างและจมูกขนาดใหญ่ที่ปกติแล้วจะมีสีดำหรือสีน้ำตาล แต่ในทางกลับกัน ใบหูของพวกเขากลับค่อนข้างเล็กและบาง

สุนัขพันธุ์โทสะสามารถเลี้ยงในสภาพแวดล้อมแบบครอบครัวได้ อย่างไรก็ตาม พวกมันมีใจชอบในการต่อสู้อย่างยิ่ง ซึ่งหมายความว่า การจะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากพวกเขาก็อาจใช้เวลาพอสมควร อย่างไรก็ดี สุนัขพันธุ์นี้ต้องการการออกกำลังกายค่อนข้างมากเป็นประจำทุกวัน

สีขน

โดยทั่วไปจะมี 3 สี ได้แก่ สีเมล็ดงา (ส้ม+ขาว+น้ำตาล สีแดง และสีน้ำตาลดำ อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็ว ๆ นี้ สีขาวและสีเสือโคร่งก็เริ่มมีให้เห็นกันบ่อยขึ้น

สุนัขพันธุ์สแปเนียลญี่ปุ่น

สแปเนียลญี่ปุ่นมีจมูกสั้นและใบหน้าที่ไม่เหมือนใคร พวกเขามีขนาดเล็กมาก โดยทั่วไปแล้วมีน้ำหนักประมาณ 3 กก. ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ชีวิตในเมืองและบ้านที่ไม่มีสวน พวกเขามีความงดงามและความสง่างามบางอย่างในตัว ทำให้พวกเขาเป็นที่นิยมไปทั่วโลก

ประวัติความเป็นมา

สแปเนียลญี่ปุ่นนั้นมีประวัติที่ยาวนานมากที่สุดในบรรดาสุนัขญี่ปุ่นทั้งหมด โดยมีประวัติสืบย้อนหลังไปถึงศตวรรษที่ 8 ในช่วงยุคนาระของญี่ปุ่น นี่เป็นสุนัขที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์หนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์

โดยทั่วไปแล้วพวกมันจะค่อนข้างสงบและไม่แสดงทีท่าตื่นเต้นมากนัก ทำให้พวกมันเป็นสายพันธุ์ที่ดีสำหรับการเลี้ยงในบ้าน เดิมทีถูกเลี้ยงเป็นสุนัขเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น

ลักษณะและอุปนิสัย

สุนัขพันธุ์สแปเนียลญี่ปุ่นจะรู้สึกผูกพันอย่างแน่นแฟ้นกับเจ้าของ พวกเขาฉลาดและเป็นมิตร นอกจากใบหน้าแล้ว ร่างกายของพวกมันยังปกคลุมไปด้วยขนที่สวยงาม มักจะเกิดก้อนขนได้ง่าย ดังนั้นการแปรงขนทุกวันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก อย่างไรก็ตาม สุนัขพันธุ์สแปเนียลญี่ปุ่นก็ไม่ต้องการการออกกำลังกายกลางแจ้งมากนัก

สีขน

โดยทั่วไปแล้วจะมีสีขนที่ไม่ตายตัว โดยมีสีขาวหรือดำเป็นส่วนใหญ่ บางครั้งเห็นสีน้ำตาลแดงเช่นกัน หลายคนชอบความสมมาตรของสีขนบนใบหน้าทั้งสองข้าง ซึ่งปกติแล้วจะเข้ากับสีขนส่วนอื่น ๆ ด้วย