ไปเยือน "ศาลเจ้าดาไซฟุเท็มมังกู" กัน

ศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู ตั้งอยู่ในฟุกุโอกะ เป็นศาลเจ้าที่อุทิศให้กับ สุกาวาระ มิจิซาเนะ (菅原道真 / Sugawara Michizane) นักวิชาการและนักการเมืองสมัยเฮอันที่จบชีวิตลง ณ ที่นี่ มิจิซาเนะ หรือบ้างก็เรียกว่า เท็นจิน (天神 / Tenjin) นั้นเป็นที่รู้จักกันในฐานะเทพแห่งการศึกษา และมีผู้ที่กำลังจะสอบเข้าหลายคนมาสวดมนต์ขอพรกันเป็นจำนวนมากในช่วงฤดูการสอบของแต่ละปี และศาลเจ้าเท็นมังกูยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นหนึ่งในจุดชมดอกเหมยชั้นนำของญี่ปุ่นอีกด้วยค่ะ

ในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกูมีสิ่งน่าสนใจเต็มไปหมด! ไปลูบหัววัวแล้วหัวจะดีจริงหรือ?

บริเวณศาลเจ้ากว้างและมีสิ่งน่าสนใจมากมาย สิ่งในนั้นฉันจะแนะนำสถานที่ที่น่าสนใจสักสามแห่งที่อยากให้รู้ไว้ก่อนเยี่ยมชมกันค่ะ

สิ่งน่าสนใจในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู อย่างที่ 1: วัวเทพ โกะชินกิว (御神牛)

เนื่องจากมิจิซาเนะเกิดในปีฉลูและเหตุผลอื่นๆ จึงมีความเชื่อว่าหากลูบหัววัวตนนี้ปัญญาจะเกิดขึ้น จนถูกลูบหลายต่อหลายครั้งจึงมีเพียงส่วนหัวเท่านั้นที่เปล่งประกายสว่างจากการถูกลูบ

สิ่งน่าสนใจในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู อย่างที่ 2: สะพานโค้ง (太鼓橋)

เหนือสระชินจิอิเกะ (心字池 / Shinji-ike) ซึ่งเป็นรูปตัวอักษรคันจิ 心 (หัวใจ) นั้นมีสะพานสามอันเชื่อมต่อกันที่แสดงถึงอดีต ปัจจุบันและอนาคต เป็นสพะานโค้ง-สะพานราบ-สะพานโค้ง" ตามลำดับ และมีการกล่าวกันว่าหากได้เดินข้ามไป จิตใจและร่างกายได้รับการชำระให้สะอาดบริสุทธิ์ค่ะ

สิ่งน่าสนใจในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกู อย่างที่ 3: ต้นการบูรคู่สามีภรรยา (夫婦樟)

เมโอโตะคุสุ หรือ ต้นการบูรคู่สามีภรรยา เป็นต้นการบูรที่อยู่หลังเรือนหลัก 2 ต้นที่อิงเอนคู่กันราวกับคู่สามีภรรยา จึงได้รับการตั้งชื่อตามนั้นค่ะ และมีการกล่าวว่าหากไปสักการะจะได้รับพรเรื่องชีวิตคู่สุขสมบูรณ์ค่ะ ทั้งสองต้นมีอายุประมาณ 1,500 ปีและถูกกำหนดให้เป็นอนุสรณ์ทางธรรมชาติของประเทศพร้อมกับต้นการการบูรใหญ่ในศาลเจ้าอีกต้นค่ะ

ในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกูมีต้นบ๊วยกว่า 200 สายพันธุ์รวม 6000 ต้น! ดอกไอริสและไฮเดรนเยียก็ห้ามพลาด♪

ศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกูเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในจุดชมดอกเหมยชั้นนำของญี่ปุ่น มีประมาณ 200 สายพันธุ์และมีดอกเหมย (บ๊วย พลัม) ดอกสีขาวและสีแดงประมาณ 6,000 ต้นในบริเวณศาลเจ้า มีทั้งสายพันธุ์ที่บานเร็วและที่บานช้าซึ่งจะออกไล่ออกดอกกันไปตามช่วงเวลาบานที่แตกต่างกันนับตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนมีนาคม ยิ่งไปกว่านั้นตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนมิถุนายนจะมีดอกไอริส (ฮานะโชบุ) ประมาณ 30,000 ต้นจากประมาณ 55 สายพันธุ์บานในสระโชบุอิเกะ (菖蒲池 / Shobu-ike) ในฝั่งตะวันออกของศาลเจ้า และดอกไอริสสีขาว สีม่วงอ่อนและสีม่วงที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำก็สวยงามมากค่ะ แถมในช่วงเดียวกันนั้นยังมีดอกไฮเดรนเยียประมาณ 5,000 ดอกบานในแถบสระโชบุอิเกะและสะพานโค้งด้วยค่ะ

ในศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกูมีเครื่องรางสำหรับผู้สอบเข้ามากมาย! แถมเซียมซีสีสันสดสวยก็น่ารักไม่เบาเลย!

ศาลเจ้าดาไซฟุเท็นมังกูเป็นที่รู้จักกันในฐานะเทพเจ้าแห่งการศึกษา มีเครื่องรางด้านความสำเร็จทางวิชาการจำนวนมาก เช่น เครื่องรางสอบผ่านสำเร็จ-การเรียนลุล่วง (受験合格・学業巾着御守り 1,000 เยน) และกล่องดินสอการเรียน (学業鉛筆 500 เยน) นอกจากนี้ยังมีถุงเครื่องรางดิ้นทองบรรจุเมล็ดจากต้นบ๊วยศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้า เครื่องรางพลัมอายุมั่นขวัญยืน (健康長寿梅守 1,500 เยน ตามในรูปข้างบน) สำหรับขอให้อายุยืนยาวมีสุขภาพดี และเครื่องรางเดินทางไปเรียน-ไปทำงานปลอดภัย (通勤通学安全 1,200 เยน) (ราคาทั้งหมดรวมภาษีแล้ว)

นอกจากนี้สีของใบเซียมซียังเปลี่ยนปีละประมาณประมาณ 10 ครั้งให้เข้ากับแต่ละฤดูกาล ราคา 100 เยน

เที่ยวเล่น เที่ยวกินไปเรื่อย ก็ได้เวลากลับเข้าฟุกุโอกะแล้วค่ะ ถึงตอนนี้จะแค่หกโมงเย็น แต่ฟ้าก็มืดมากเลยค่ะ อ๊ะ..แต่ก่อนกลับ ขอแวะปั๊มแสตมป์สัญลักษณ์ของสถานีรถไฟแห่งนี้เป็นที่ระลึกสักหน่อย แล้วไว้จะมาอีกนะ..ดาไซฟุ