
เกาะมิยาจิมะ เป็นหนึ่งในสถานที่แนะนำสำหรับเที่ยวชิลล์ๆครึ่งวันในเมืองฮิโรชิม่าค่ะ สถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์อันโด่งดังของที่นี่ เห็นจะหนีไม่พ้นเสาโทริอิกลางอ่าวฮิโรชิม่า เสาแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อปี1168 ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งออกไป 200 เมตร วิวของที่นี่จะแตกต่างออกไปตามแต่ละช่วงเวลาของวันค่ะ ช่วงที่น้ำตื้น ก็จะเห็นเสาโทริได้ชัดเจนเต็มๆ แต่หากเป็นช่วงน้ำขึ้น ก็จะเห็นเสาลอยอยู่กลางแม่น้ำได้อย่างสวยงาม ภาพวิวแสงออร่าเคียงคู่กับเสาสีแดงลอยกลางน้ำเป็นหนึ่งในวิวที่คุณจะประทับใจไม่รู้ลืมเลยล่ะค่ะ
หุบเขาโทริอิสะคิว
นึกภาพตัวเองนั่งอูฐในทะเลทรายของญี่ปุ่นออกไหมคะ? ดูไม่น่าเป็นไปได้เลยนะคะ แต่ก็เป็นไปได้ที่สวนสาธารณะไคกัน
เมืองทอตโทริค่ะ ที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ญี่ปุ่น เรื่อง “Woman
in the Dunes” ด้วยค่ะ นักท่องเที่ยวที่อยากมาเยี่ยมชมเนินทรายแห่งนี้สามารถนั่งรถบัส
หรือนเช่ารถได้จากในเมืองทอตโทริ ละถ้าใครอยากจะเช่าอุฐ
หรือรถที่ขี่ในทะเลทรายได้ก็ต้องเช่าจากบริษัททัวร์นะคะ
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากโอซาก้า ต้องนั่งรถไฟเข้ามาที่เมืองทอตโทริก่อน
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งค่ะ จากนั้นจึงต่อรถบัสเข้าไปอีก 20 นาทีค่ะ
น้ำตกนาจิในจังหวัดวากายามะ
น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในจังหวัดวากายามะค่ะ น้ำตกที่มีความสูงถึง 133 เมตรแห่งนี้ สามารถมองได้อย่างเต็มตาจากศาลเจ้าชินโต คุมาโนะ นาจิ ไทชะซึ่งอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ใครที่อยากได้ภาพวิวสวยๆ สามารถนั่งรถบัสไปที่ศาลเจ้าแห่งนี้ได้ จากสถานีนาจิ ใช้เวลาไม่นานค่ะ แค่ 20 นาทีเองเท่านั้น ส่วนนักท่องเที่ยวที่จะมาเยี่ยมเยือนน้ำตกแห่งนี้ โดยเดินทางจากเมืองโอซาก้า หรือเกียวโต แนะนำให้เตรียมเวลาไว้สัก 4 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางเข้าไปชมน้ำตกนะคะ
ป่าไผ่อาราชิยามะ จังหวัดเกียวโต
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยเห็นภาพต้นไผ่ปลูกเรียงกันสวยๆ
ซึ่งเป็นวิวที่โงดังวิวหนึ่งสำหรับการท่องเที่ยวจังหวัดเกียวโต
แต่ไม่ใช่แค่ภาพที่สวยเท่านั้นนะคะ หากได้มีโอกาสมาเดินเที่ยวชมจริงๆแล้วล่ะก็
จะประทับใจกับบรรยากาศป่าไผ่เขียวๆ พอมีลมพัดมาก็จะได้ยินเสียงต้นไผ่กระทบกันเบาๆ
แสงแดดลอดผ่านลงมาเบาๆ บรรยากาศโรแมนติก เหมาะแก่การมาเดททีเดียวเชียวค่ะ
ศาลเจ้าโคโตะฮิระ เกาะชิโกกุ
ศาลเจ้าในจังหวัดคากะวะแห่งนี้ อยู่บนเทือกเขาโซซุ โดยต้องปีนเขาขึ้นไปประมาณ 521 เมตรค่ะ ศาลเจ้าแห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ปลายทางอันโด่งดังในหมู่ผู้จาริกแสวงบุญเชียวล่ะค่ะ ซึ่งนอกจากเรื่องนั้นแล้ววิวทิวทัศน์ที่มองลงไปเห็นเมืองทั้งเมือง และศาลเจ้าที่ยังคงสภาพความเป็นญี่ปุ่นแท้ๆยังเป็นอีกเหตุผลที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวที่นี่ค่ะ แต่ถ้าใครไม่อยากปีนเขาก็ไม่ต้องห่วงไปค่ะ เพราะสามารถนั่งรถบัสขึ้นไปได้จากรถไฟเจอาร์ สถานีโคโตฮิระ แต่ว่าต้องจองก่อนล่วงหน้านะคะ
พระพุทธรูปใหญ่ เมืองคามาคุระ
พระพุทธรูปสำริด ความสูง 13 เมตร ของคามาคุระนี้ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 1252 นู่นเชียวค่ะ แถมเมืองคามาคุระยังอยู่ไม่ไกลจากโตเกียวอีกด้วย จะแวะมาเที่ยววันเดียวแล้วกลับไปนอนพักที่โตเกียวก็ทำได้สบายๆเลยค่ะ
ภูเขาไฟฟูจิ
การจะเดินทางไปเยี่ยมชมภูเขาไฟฟูจินั้นง่ายดายมาก เพียงแค่นั่งรถบัสออกไปจากชินจูกุเท่านั้น ภูเขาไฟฟูจิเปิดให้นักปีเขาเข้าไปท้าทายกันได้ทุกฤดู ยกเว้นในช่วงหน้าหนาว โดยใช้เวลาปีนกว่า 8 ชั่วโมงค่ะ โดยนักท่องเที่ยงอาจจะจำเป็นต้องพักค้างคืนข้างบนนั้นนะคะ แต่ถึงจะดูเหนื่อยยากแค่ไหน หากได้เห็นวิวที่มองลงมาจากยอดภูเขาไฟก็คงจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยล่ะค่ะ แนะนำว่าถ้าแรงกายยังไหว อยากให้ลองท้าทายตัวเองไปปีนภูเขาไฟแห่งนี้ดูกันนะคะ ตอนทางลงเร็วกว่านิดนึง ใช้เวลาแค่ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ
วัดคิโยมิซึ
วัดแห่งนี้ หากแปลชื่อตรงตัวจะแปลว่า “วัดน้ำใส” ค่ะ ซึ่งชื่อนี้ก็ได้มาจากน้ำตกที่ไหลลงท่ามกลางความเงียบสงบของสวนในวัดซึ่งยูเนสโกยกย่องให้เป็นหนึ่งในสถานที่อันเป็นมรดกอันล้ำค่าของโลกใบนี้ นอกจากเรื่องความสวยงามของวัดแล้ว โครงสร้างทางสถาปัตยกรรมของวัดยังมีความซับซ้อน เพราะได้รับการสร้างขึ้นโดยไม่ได้ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียวเลยค่ะ
วัดเบียวโดอิน
วัดเบียวโดอิน สร้างขึ้นเมื่อปี 1988 ซึ่งยังคงรักษาโครงสร้างสถาปัตยกรรมในยุดเฮอันแท้ๆให้ได้ชื่นชมกัน สัญลักษณ์อันโด่งดังของวัดนี้ก็คงจะหนีไม่พ้นหอฟีนิกซ์ ซึ่งมีรูปปั้นนกฟีนิกซ์สวยงามสองตัวเกาะอยู่คนละด้านของขอบหลังคา ภาพวิวสถาปัตยกรรมอันสวยงามตั้งอยู่เคียงข้างกับทะเลสาบ เป็นวิวอันสวยงามหาค่าไม่ได้เชียวค่ะ วัดแห่งนี้อยู่ห่าจากสถานีอุจิ โดยใช้ระยะเดินเพียงแค่ 10 นาที ซึ่งต้องนั่งรถไฟออกมาจากเมืองเกียวโตประมาณ 20 นาทีค่ะ
แผ่นน้ำแข็งลอยที่คาบสมุทรชิเระโทโกะ
ตอนเหนือสุดของเมืองฮอกไกโด
น้ำที่จับตัวกันเป็นแผ่นแข็งได้ไหลลงมาตามชายฝั่งชิเระโทโกะ ในช่วงหน้าหนาว
น้ำแข็งที่จับตัวกันหนา
ทำให้ชาวเรือจำเป็นต้องกำจัดออกเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย
แต่หากมองในทางที่ดี
นี่คือโอกาสอันดีของบรรดาช่างภาพที่จะได้ถ่ายรูปพลังของธรรมชาติ
เมื่อได้เห็นทะเลสาบปกคลุมไปด้วยแผ่นน้ำแข็ง ซึ่งหากใครอยากเก็บภาพได้ชัดๆทั่วทุกมุม
ที่เมืองอุโทโระเค้าก็ได้จัดไกด์ไว้พาเดินชมด้วยค่ะ
Comments