จะไปเที่ยวทั้งที ก็หาข้อมูลกันใหญ่เลยนะคะว่าที่ไหนในญี่ปุ่นน่าไปชม ร้านไหนน่าไปชิม ยิ่งถ้าไปเที่ยวเองด้วยแล้ว นักท่องเที่ยวบ้างคนเนี่ย รู้ลึกซะยิ่งกว่าคนญี่ปุ่นอีกนะคะ แต่ถึงจะรู้ลึกยังไง เชื่อว่าหลายคนคงจะยังไม่รู้จักสถานที่และเรื่องราวว้าวๆในญี่ปุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้แน่ๆ
ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อมากๆว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวและสิ่งของที่มีเอกลักษณ์
และมีวัฒนธรรมมากมายหลายหลายที่สุดในโลก
และที่เรารวบรวมมาให้ว้าวกันในวันนี้ มี 10 สิ่งด้วยกัน ดังต่อไปนี้ค่ะ
1. เกาะผีสิง
เอ๊ะ...เกาะผีสิงหรอ มันยังไงกันนะ…เกาะนี้ คือ
เกาะฮาชิมะ ที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองนางาซากิมากนัก เป็นเกาะร้าง ในช่วงปี 1800 ถึงปี
1970 เกาะนี้เคยเป็นเกาะเหมืองแร่ค่ะ ถึงจะถูกปล่อยทิ้งร้างไว้แบบนั้น
นักท่องเที่ยวก็ยังสามารถเข้าไปเที่ยวชมที่เกาะแห่งนี้ได้ค่ะ
แถมเกาะนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องเจมส์บอนด์ ภาค skyfall โดยเป็นสถานที่หลบซ่อนของวายร้าย Raoul Silva ค่ะ
2. คนญี่ปุ่นชอบดื่มกาแฟมากกกก
หลายคนพอพูดถึงญี่ปุ่น ก็จะนึกถึงชาเขียวเป็นอันดับแรกนะคะ
แต่จริงๆแล้วนอกจากเรื่องการดื่มชาเนี่ย
ที่นี่ยังเป็นประเทศที่นำเข้ากาแฟมากที่สุดประเทศนึงในโลกด้วยค่ะ
กาแฟที่ผลิตในจาไมกาส่วนใหญ่ สุดท้ายก็จะถูกนำเข้ามาขายที่ญี่ปุ่นค่ะ
ถ้าใครเคยไปเที่ยว จะเห็นว่าไม่ว่าจะเดินไปที่ไหนก็จะต้องมีร้านกาแฟให้เห็นบ่อยๆ
แถมยังเปิดให้บริการตลอดทั้งวันอีกด้วยใช่ไหมล่ะคะ
3. ผู้หญิงญี่ป่นเคยย้อมฟันตัวเองให้เป็นสีดำ
ในสมัยโบราณ
ผู้หญิงญี่ปุ่นนิยมยอมฟันเป็นสีดำ
ด้วยวิธีการที่เรียกว่า “โอฮากุโระ” โดยใช้แผ่นเปียกสีดำ
ซึ่งทำจากขี้ตะไบผสมกันน้ำส้มสายชูค่ะ และเหตุผลที่เค้าย้อมกันก็เพราะว่าเค้าถือว่าผู้หญิงฟันขาวๆเนี่ย
ไม่สวยเอาซะเลย และเชื่อว่าการทำแบบนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ฟันเสื่อมค่ะ
แต่โชคดีการกระทำแบบนี้ได้ถูกทิ้งไป และถือเป็นสิ่งต้องห้ามตามกฎหมายตั้งแต่ช่วงปี
1800 แล้วล่ะค่ะ
4. คนญี่ป่นใช้รองเท้าสลิปเปอร์ในห้องน้ำ
ในสังคมญี่ปุ่น เค้าถือว่าห้องน้ำเป็นพื้นที่ที่สกปรกสุดๆค่ะ เพราะฉะนั้นถ้าเข้าไปใช้ห้องน้ำ
ยังไงก็ต้องใส่สลิปเปอร์ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
แล้วก็ต้องเป็นรองเท้าสลิปเปอร์ สำหรับใส่ในห้องน้ำโดยเฉพาะด้วยนะคะ
ห้ามใส่รองเท้าตัวเองที่ใส่อยู่เป็นอันขาด
5. ต้องใช้เวลากว่า 11 ปี
เพื่อที่จะเป็นเชฟปลาปักเป้า
ฟุกุ คือ ปลาปักเป้าค่ะ
ซึ่งในตัวของมันนั้นมีพิษเพราะอย่างนั้นกระบวนการเตรียมปลาชนิดนี้จึงต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ
ไม่งั้นอาจทำให้คนตายได้ เชฟที่จะประกอบอาหารด้วยปลาชนิดนี้ได้จึงต้องฝึกฝนและเรียนรู้เป็นเวลากว่า
11 ปีเชียวล่ะค่ะ แล้วก็ต้องเป็นเชฟที่ได้รับใบอนุญาตด้วยนะคะ
ไม่งั้นก็ทำเมนูนี้เสริฟให้ลูกค้าไม่ได้ ที่น่าตกใจกว่านั้นก็คือ
ในการฝึกฝนขั้นตอนการเตรียมปลาฟุกุนี้ เชฟจะต้องกินปลาที่ตัวเองเตรียมเสร็จแล้ว
เพื่อพิสูจน์ว่าได้เตรียมปลาอย่างถูกวิธีอีกด้วย
6. มารยาทในการรับของขวัญก็ต้องทำให้ถูกวิธี
เป็นเรื่องที่เสียมารยาทมากค่ะ
สำหรับคนญี่ปุ่น ถ้าหากว่าจะปฏิเสธของขวัญจากใครสักคน
อย่างน้อยๆก็จะต้องมำเป็นอยากจะได้สักหน่อย ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมการให้ของขวัญเยอะมากค่ะ
และก็จะเป็นการเสียมารยาทมาก ถ้าไปบ้านใครแล้วไม่หิ้วของฝากอะไรไปด้วย
และหากได้รับของขวัญจากคนญี่ปุ่นแล้วจะต้องแกล้งทำเป็นเกรงใจไม่กล้ารับไว้สักนิดหนึ่ง
ซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นมารยาทที่ดีอีกเช่นกันค่ะ
7.เกาะกระต่ายก็มีนะจ้ะ
นอกจากเกาะผีสิงที่ดูน่ากลัวแล้ว
ที่นี่เค้ายังมีเกาะกระต่ายน่ารักๆอีกด้วยค่ะ เกาะนั้นก็คือ เกาะโอคุโนะชิมะ
ที่เค้าเลี้ยงกระต่ายไว้เยอะแยะเต็มเกาะไปหมด
ว่ากันว่าตอนแรกเจ้ากระต่ายพวกนี้ถูกเลี้ยงไว้เพื่อการทดลองค่ะ แต่เดี๋ยวนี้เค้าเลี้ยงปล่อยให้กระต่ายใช้ชีวิตอิสระ
วิ่งเล่นเต็มเกาะไปหมดเลยค่ะ สำหรับคนที่ชอบกระต่ายแล้วล่ะก็
จะต้องไม่พลาดไปเยือนเกาะนี้ให้ได้นะคะ
8. เลข 4 คือ เลขอัปมงคล
ในภาษาญี่ปุ่น เมื่อออกเสียงเลข 4 เสียงจะไปพ้องกับคำที่แปลว่า
“ตาย” (ออกเสียงว่า ชิ) ค่ะ คนญี่ปุ่นจึงถือว่าเลขสี่เป็นเลขอัปมงคล และนิยมหลีกเลี่ยงการใช้เลขนี้
ถ้าสังเกตดีๆลิฟต์บางแห่งในญี่ปุ่นจะไม่มีชั้น 4
และจะไม่มีการให้ของขวัญที่มีเลขสี่อยู่ด้วย หรือว่าให้สี่ชิ้นก็ห้ามค่ะ
9. ดันคนให้เข้าไปในรถไฟก็เป็นอาชีพได้
ในประเทศญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อว่าในช่วงเวลาเร่งด่วน
รถไฟจะแน่นมากกกกก ที่นี่เค้าก็เลยมีคนที่ทำอาชีพดันคนให้ยัดเข้าไปในรถไฟได้
หรือที่เรียกว่า “โอชิยะ” ด้วยค่ะ
จุดมุ่งหมายที่ต้องมีโอชิยะนี้ก็เพื่อเช็คว่าคนจะเข้าไปในขบวนรถไฟได้
โดยไม่โดนประตูหนีบค่ะ
10. เมล่อนของประเทศนี้แพงหูฉี่
ผลไม้ที่ญี่ปุ่นมีราคาแพงค่ะ
แต่ถึงอย่างนั้นก็มีรสชาติอร่อยสุดๆแบบที่ประเทศอื่นก็สู้ไม่ได้
โดยเฉพาะเมล่อนเนี่ย ราคาไม่ธรรมดาเลยล่ะค่ะ เพราะแค่ลูกเล็กๆก็ราคากว่า 3,000
บาทแล้ววว แล้วยิ่งถ้าเป็นเมล่อนผิวสวยๆ ไม่ค่อยมีรอย
ลูกกลมสวยแล้วล่ะก็...ราคาสูงลิบลิ่ว ยากจะเอื้อมถึงเลยล่ะค่ะ
Comments