ถ้าคุณต้องการจะรู้เรื่องต้นกำเนิดของศาสนาชินโตในประเทศญี่ปุ่น คุณควรลองมาที่ทาคาชิโฮะในคิวชู เพราะทาคาชิโฮะเรียกได้ว่าเป็น "ดินแดนแห่งตำนาน" และเป็นหนึ่งในสถานที่รู้จักกันดีสำหรับเรื่องราวตำนานของญี่ปุ่น ที่นี่เป็นเมืองเล็กอยู่ทางตอนเหนือสุดของจังหวัดมิยาซากิ ประชากรของเมืองมีประมาณ 14,000 คน แต่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาประมาณ 1.5 ล้านคนต่อปี

อะไรที่ดึงดูดผู้คนให้มาทาคาชิโฮะ? ว่ากันว่าที่นี่เป็นสถานที่ที่หลานของเทพีแห่งดวงอาทิตย์ได้เดินทางมายังโลก นอกจากนี้ยังมีสถานที่อีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับตำนานของญี่ปุ่น ผู้คนที่นี่เองก็ยังได้สืบทอด Kagura คือการเต้นรำอันศักดิ์สิทธิ์ที่แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวในตำนาน ในปีนี้ฉันได้มีโอกาสใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการท่องเที่ยวภูมิภาคคิวชู และเดินทางไปหลายสถานที่ ฉันอยากจะบอกกับพวกคุณว่าทาคาชิโฮะเป็นสถานที่ที่ดีที่สุดในการเดินทางของฉันในครั้งนี้ ฉันจึงต้องการแนะนำสถานที่ไม่ควรพลาดในทาคาชิโฮะให้แก่คุณค่ะ



ช่องเขาทาคาชิโฮะ

ช่องเขาทาคาชิโฮะ คือช่องผาลึกที่เกิดจากการกัดเซาะของแม่น้ำโกะคาเซะ(Gokase) ซึ่งนานมาแล้วหุบเขานี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟอะโซะ (Aso) โดย ทีนี่ได้รับการคุ้มครองให้เป็นอุทยานแห่งชาติในปี 1934 คุณสามารถเดินชม และสัมผัสธรรมชาติ ในระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ระหว่างทางเดินคุณจะได้เพลดเพลินไปกับบรรยากาศอันงดงามในอากาศที่แสนสดชื่น และนอกจากนี้คุณยังสามารถพายเรือล่องไปตามแม่น้ำ เพื่อเพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์ที่สวยงามได้อีกด้วยนะคะ

จุดชมวิวที่ดีที่สุดคือ น้ำตกมานาอิ (Manai Waterfall) ซึ่งสูงกว่า 17 เมตร และเป็นหนึ่งใน 100 อันดับแรกของน้ำตกในญี่ปุ่น ถ้าคุณเคยอ่านคู่มือท่องเที่ยว คิวชู คุณอาจเคยเห็นภาพของน้ำตกอยู่ในนั้น เพราะภาพนี้มักจะถูกนำมาใช้บนหน้าปกของหนังสือท่องเที่ยว หรือโฟโต้บุ๊คอยู่บ่อยๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถเช่าเรือพายล่องไปตามแม่น้ำ เพื่อชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงามได้อีกด้วย แต่ระวังว่าบางครั้งร้านให้เช่าเรืออาจกำลังปิดซ่อมอยู่ อย่างไรแล้วคุณควรโทรไปสอบถามก่อนค่ะ



ศาลเจ้าทาคาชิโฮะ

ศาลเจ้าทาคาชิโฮะ อยู่ใกล้กับตัวเมืองทาคาชิโฮะ ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นราว 1,900 ปีก่อน ที่นี่ยังมีต้นสนญี่ปุ่นขนาดใหญ่อายุราวๆ 800 ปี และมีต้นสนขนาดใหญ่ 2 ต้นพันลำตัวกัน พวกเขาบอกว่าต้นนี้คือต้นสนสามีภรรยา มีความเชื่อว่าหากคู่รักเดินจับมือวนรอบต้นสนนี้ 3 รอบ ก็จะได้แต่งงานกันค่ะ



คุณควรไปที่ศาลเจ้าทาคาชิโฮะทั้ง2 ช่วงเวลาคือกลางวัน และกลางคืน ตอนกลางคืนจะมีการแสดงชื่อ โยคากุระ (Yokagura) ซึ่ง “yo” หมายถึงกลางคืน และ “kagura” หมายถึงการร่ายรำที่ศักดิ์สิทธิ์และเพลง การร่ายรำนี้เป็นเรื่องราวตำนานเกี่ยวกับเทพแห่งดวงอาทิตย์ และเทพเจ้าอื่น ๆ

คุณสามารถเพลิดเพลินไปกับการแสดงทุกคืนที่ศาลเจ้าทาคาชิโฮะตั้งแต่เวลา 20.00น. โยคากุระเป็นการแสดงที่สั้นและคุณสามารถดูการแสดงนี้ได้ถึง 4 เรื่อง จากทั้งหมด 33 เรื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วยังมีสถานที่บางแห่งนะคะที่มีการร่ายรำเพื่อการสักการะแบบดั้งเดิม แต่ก็เป็นเรื่องยากที่นักท่องเที่ยวจะได้ชม เพราะพวกเขาจะแสดงก็ต่อเมื่อมีงานเทศกาลเท่านั้น ฉันเป็นคนญี่ปุ่น แต่ฉันยังไม่เคยได้มีโอกาสได้ดูการร่ายรำแบบโยคากุระเลยในชีวิตของฉัน นี่เป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นมาก ฉันเข้ามาดูแถวหน้าเลย มันช่างน่าประทับใจ และคุ้มค่าจริงๆ ที่ได้เห็นจริงๆ ค่ะ

ศาลเจ้าอะมาโนะ อิวะโตะ และ ถ้ำอะมาโนะ ยาสุกาวาระ



ศาลเจ้าอะมาโนะ อิวะโตะ (Amanoiwato Shrine) แห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีตำนานปรัมปราที่โด่งดังที่สุด เรื่องราวมีอยู่ว่า เทพธิดาดวงอาทิตย์ของญี่ปุ่น เทพอามาเทราสึ(Amaterasu) ได้เกิดโมโหพี่ชายของเธอที่ เล่นอะไรแผลงๆ จึงซ่อนตัวเองอยู่ในถ้ำที่อยู่ใกล้กับศาลเจ้า และเธอก็ปฏิเสธที่จะออกมาเล่นข้างนอก จึงเป็นสาเหตุทำให้เกิดความมืด จึงทำให้ทุกๆ คนมารวมตัวกันใกล้ๆกับศาลเจ้า และช่วยกันหาวิธีให้เธอออกมาจากถ้ำ จึงเกิดวิธีการหลอกล่อให้เธอออกมา ด้วยการร่ายรำที่ดูน่าตลก เพื่อให้ผู้อื่นหัวเราะ และเทพธิดาพระอาทิตย์ก็จะออกมาดูสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกภายนอก



ถ้ำที่เทพธิดาดวงอาทิตย์ซ่อนตัวนั้นตั้งอยู่ใกล้กับศาลเจ้าอามาโนะอิวะโตะ (Amanoiwato Shrine) และคุณสามารถเห็นถ้ำแห่งนั้นได้จากศาลเจ้าแห่งนี้ โดยหากคุณต้องการที่จะเห็นถ้ำ คุณสามารถถามเจ้าหน้าที่ที่ศาลเจ้า และเขาจะนำคุณไปยังสถานที่เอง ใกล้ๆ กันนั้นยังมีอีกถ้ำ ชื่อว่า ถ้ำอะมาโนะ ยาสุกาวาระ (Amano Yasukawara) เป็นถ้ำที่เหล่าเทพใช้ในการประชุมหารือวิธีการทำให้เทพอะมาเทอราซุยอมออกมาจากถ้ำอะมาโนะ ยาสุกาวาระ (Amano Yasukawara) ที่นี่อยู่ห่างออกไป 10 ~ 15 นาทีโดยการเดินเท้า คุณอาจจะต้องเตรียมรองเท้าที่ทนทานสามารถเดินจากศาลเจ้าศาลเจ้าอามาโนะอิวะโตะ (Amanoiwato Shrine) ไปยังถ้ำอะมาโนะ ยาสุกาวาระ (Amano Yasukawara)ได้