
การเดินทางมายังเมืองฮาโกดาเตะ:
เมืองฮาโกดาเตะ เดินทางมาได้โดยง่ายจากสนามบินฮาโกดาเตะ แค่เพียง 20 นาทีโดยรถบัส ในราคา 300 เยน
และหากคุณบินมาลงยังสนามบินชิโตเซะ คุณสามารถนั่งรถไฟมาที่ฮาโกะดาเตะได้ในเวลา 2 ชั่วโมง
นอกจากนี้คุณยังสามารถใช้ระบบการคมนาคมทางรถไฟจากโตเกียวมายังฮาโกดาเตะ แต่คุณจะต้องเปลี่ยนรถไฟในบางสถานี ราคาตั๋วรถไฟจะเริ่มที่ 19,200 เยน โดยราคาจะถูกกว่านี้หากคุณซื้อบัตรเจแปน เรล พาส แทนการซื้อตั๋วรถไฟเป็นเที่ยวๆ
นอกจากนี้ยังมีรถบัสสายกลางคืนที่เดินทางจากโตเดียวมายังเมืองฮาโกดาเตะอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ:
ภูเขาฮาโกดาเตะ:
หากคุณต้องการชมวิวที่ดีที่สุดของเมืองฮาโกดาเตะ คุณควรจะไปที่ภูเขาฮาโกดาเตะค่ะ ทิวทัศน์จากยอดเขาแห่งนี้กล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในทิวทัศน์ที่ดีที่สุดของประเทศญี่ปุ่น และคุณสามารถจะชื่นชมทิวทัศน์ในรูปแบบมุมมองต่างๆ ได้หลากหลายวิธี โดยการขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของยอดเขา คุณสามารถเดินทางได้โดยโรปเวย์หรือรถบัส ที่ยอดเขาฮาโกดาเตะแห่งนี้ คุณจะได้พบกับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ป้อมปราการสึงารุ (Tsugaru Fort) ซึ่งถูกสร้างเพื่อการใช้งานในระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

Jedsada Kiatpornmongkol / Shutterstock.com
ป้อมปราการโกะเรียวคะขุ:
ป้อมปราการโกะเรียวคะขุ เริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 1864 และมีชื่อเสียงโดดเด่นสำหรับการเป็นสิ่งก่อสร้างในรูปดาว ปัจจุบันนี้ป้อมปราการเกือบทั้งหมดได้ล่มสลายไปแล้ว แต่คุณจะได้พบกับสวนอันสงบนิ่งซึ่งเป็นสถานที่จะต้องไปในช่วงของฤดูดอกซากุระบาน ภายในส่วนที่เหลือของป้อมปราการ คุณจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์พร้อมแกลอรี่ภาพที่จะบอกเล่าเรื่องราวต่างๆของฮาโกดาเตะ

อุทยานโอนุมะ
หากคุณต้องการเห็นในมุมที่แตกต่างของฮาโกดาเตะ ให้คุณเดินทางไปยังแถบชานเมืองซึ่งคุณจะได้พบกับอุทยานโอนุมะ ที่อุทยานแห่งนี้ แม้จะไม่ได้มีการกำหนดให้เป็นอุทยานแห่งชาติ แต่ก็ล้อมรอบด้วยภูเขา พื้นที่ของป่าเขียวชอุ่ม และทะเลสาปที่ใสราวกับคริสตัล การเดินทางไปยังอุทยานแห่งนี้ ทำได้โดยง่ายโดยการนั่งรถไฟด่วนจากสถานีเจอาร์ฮาโกดาเตะ และใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที

บ่อน้ำพุร้อนยุโนะคาวะ (Yunokawa Hot Springs)
ฮอกไกโดถือเป็นหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงด้านออนเซ็น รวมไปถึงบ่อน้ำพุร้อน และยุโนะคาวะออนเซ็น ได้รับการกล่าวกันว่าเป็นหนึ่งในที่ที่ดีที่สุด รีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเล เพราะฉะนั้นเวลาที่คุณกำลังแช่น้ำอยู่นั้น คุณก็จะได้ชื่นชมทิวทัศน์อันสวยงาม ในขณะที่คุณนั่งผ่อนคลายความเหนื่อยล้าและเจ็บปวดของคุณ
ช้อปปิ้งและดิวตี้ฟรี:
ตลาดตอนเช้า:
ตลาดตอนเช้าที่ฮาโกดาเตะเป็นสิ่งที่คุณไม่ควรพลาด เพราะคุณจะได้พบกับสินค้าพื้นบ้านมากมาย รวมไปถึงอาหารทะเลที่เมืองนี้มีชื่อเสียงด้านนี้ที่สุด ซึ่งรวมไปถึงปูฮอกไกโด และนอกจากนี้คุณได้พบกับคาเฟ่ท้องถิ่นที่หลากหลาย รวมไปถึงร้านอาหารที่ให้บริการอาหารเช้า
งานเครื่องแก้ว:
ฮอกไกโดเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปเกี่ยวกับงานเครื่องแก้วที่สวยงาม และคุณสามารถซื้อสิ่งนี้ได้ในอาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าสมัยเมจิ
กล่องดนตรี:
เช่นเดียวกับเมืองอื่นๆ ในฮอกไกโด อย่างซัปโปโร และ โอตารุ ที่ฮาโกดาเตะเองก็มีชื่อเสียงในเรื่องของกล่องดนตรี ต้องขอบคุณที่อดีตเรามีเส้นทางการค้ากับพวกยุโรป และกล่องดนตรียังคงเป็นของที่ระลึกที่ได้รับความนิยมที่ขายในเมืองนี้ นอกจากนี้คุณยังจะหาซื้อกล่องดนตรีได้ที่อาคารที่ทำการไปรษณีย์เก่าสมัยเมจิอีกด้วยค่ะ
ดีลพิเศษ:
หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะเดินทางไปรอบๆ ฮาโกดาเตะ คือการนั่งรถราง ซึ่งเริ่มวิ่งจากสถานีรถไฟ คุณสามารถซื้อตั๋ววันสำหรับรถรางในราคา 600 เยน ซึ่งจะถูกกว่าการซื้อตั๋วเป็นเที่ยวๆ
นอกจากนี้คุณยังสามารถจะซื้อตั๋ววันที่ใช้สำหรับทั้งรถรางและรสบัส ในราคาเพียง 1,000 เยน
ตั๋ววันนี้จะยังมอบส่วนลดในสถานที่ท่องเที่ยวในฮาโกดาเตะบางแห่ง ไม่ว่าจะเป็นส่วนลดสำหรับโรปเวย์ขึ้นภูเขาฮาโกดาเตะ และการขึ้นโกะเรียวคะขุ ทาวเวอร์

Piti Sirisriro / Shutterstock.com
แนะนำช่วงเวลาในการเดินทาง:
นักท่องเที่ยวหลายคนนิยมมาเที่ยวที่ฮาโกดาเตะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งอยู่ระหว่างช่วงเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม โดยจะมีนักท่องเที่ยวมากที่สุดในช่วงกรกฏาคมและสิงหาคม
นอกจากนี้ ฮอกไกโดยังมีชื่อเสียงเกี่ยวกับหิมะ และนักท่องเที่ยวมากมายต่างเล็งเอาฮอกไกโดเป็นจุดหมายปลายทางในช่วงฤดูหนาว โดยฤดูหนาวจะอยู่ระหว่างช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน หลังจากนั้นหิมะส่วนมากก็จะละลายไปหมดค่ะ
โดยเดือนตุลาคมและพฤศจิกายน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะมาเที่ยวฮอกไกโดนะคะ เพราะจะอยู่ในช่วงฤดูใบไม้สีเหลือง เพราะเมื่อหมดฤดูร้อนและเปลี่ยนเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง คุณจะได้เห็นใบไม้สีเหลืองร่วงหล่นสู่พื้นในสวนต่างๆ ของที่นี่ ซึ่งเหตุการณ์นี้มักจะเกิดขึ้นก่อนที่หิมะจะตก ดังนั้นหากคุณต้องการหลีกเลี่ยงที่จะเจอกับอากาศหนาวจัด ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่จะมานั่นเองค่ะ
Comments