มิยาซาว่า เค็นจิ (宮沢賢治 / MIYAZAWA Kenji) นักเขียนชาวญี่ปุ่น เป็นหนึ่งในนักเขียนชื่อดังของญี่ปุ่น และได้ทิ้งผลงานเอาไว้ให้เชยชมกันมากมาย เรียกได้ว่ามีชื่อถึงขั้นที่ว่าในหนังสือแนะนำสำหรับเด็กประถมก็ยังต้องมีชื่อของเขาปรากฏให้เห็นเป็นแน่นอน และหนึ่งในผลงานของนักเขียนผู้นี้ มีเรื่องสยองด้วยอย่างนั้นหรือ? ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำผลงานของนักเขียนผู้นี้ "ร้านอาหารรายการสั่งเยอะ" (注文の多い料理店 / The Restaurant That Has Many Orders) ที่คนญี่ปุ่นทุกคนรู้จักกันครับ
ช่วงต้นของผลงานนั้นพรรณาเหมือนนิทานโบราณหลาย ๆ เรื่อง
บุรุษหนุ่มสองนายได้นำสุนัขล่าสัตว์ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ในป่า แต่ทว่า แม้ตะวันจะเริ่มลับฟ้าก็ยังหาได้เจอสัตว์ป่าให้ล่าได้ไม่ ซ้ำร้ายยังพลัดกับจากคนนำทาง สุนัขก็ล้มฟุบหมดแรง แต่ในทันใดนั้น ก็มีร้านอาหารตะวันตกที่แลดูยอดเยี่ยม "ยามะเนโกะเต" (山猫亭 / Yamaneko-tei ร้านแมวป่า) ปรากฏอยู่ตรงหน้าของชายทั้งสอง
ที่ป้ายนั้นเขียนไว้ว่า "ต้อนรับคนอ้วนคนหนุ่มเป็นพิเศษ" เมื่อทั้งสองเห็นดังนั้นก็คิดไปว่า "พวกเราทั้งหนุ่มทั้งอ้วนอยู่พอดี คงได้รับการต้อนรับอย่างดีแน่" จึงเข้าไปในร้านกัน แต่ทว่า ยิ่งเดินเข้าไปภายในร้านก็ยิ่งกว้างขวาง เดินยังไงก็ไปไม่ถึงห้องทานอาหารเสียที
จุดน่าสนใจอยู่ตรงที่รายการสั่งที่มากขึ้นเรื่อย ๆ
ระหว่างนั้นก็พบป้ายสั่งต่าง ๆ ปรากฏขึ้น เช่น "กรุณาหวีผมเพื่อเอาคราบดินโคลนออก" "กรุณาวางปืนไว้" "กรุณาถอดหมวก เสื้อคลุม รองเท้าออก" ทั้งสองก็คิดในแง่ดีว่า "คงเป็นเพราะมีคนใหญ่คนโตมาเยือนบ่อย ๆ แน่เลย" จึงทำตามคำสั่งเหล่านั้น
แต่กระนั้น ก็เริ่มมีคำสั่งแปลก ๆ โผล่ขึ้นมา เช่น "มีครีมที่ทำจากนมใส่ไว้ในโหล กรุณาชโลมตัวด้วยครีม"
และป้ายสุดท้ายก็เขียนไว้ว่า "คำสั่งเยอะแยะจนน่ารำคาญเลยสินะ ขอโทษที มีแค่เท่านี้แหล่ะ อย่างไรเสีย กรุณานำเกลือในโหลทาให้ทั่วทั้งตัวด้วย" ...
ทั้งสองก็รู้สึกตัวตามที่คาดการณ์กันไว้ว่า พวกเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายถูกประกอบเป็นอาหาร
จุดที่น่ากลัวคือสิ่งที่ปรากฏในตอนท้าย
จากอีกฟากของประตูก็มีเสียงพูดคุยฟังดูน่าสนุกดังออกมา
"ยุ่งแล้วสิ พวกมันรู้ตัวกันแล้ว ดูท่าคงไม่ทาเกลือแล้วแหล่ะ"
"แหงแหล่ะ ก็คำเขียนของหัวหน้าแย่แบบนั้นนี่ บอกว่าไปว่า คำสั่งเยอะแยะจนน่ารำคาญเลยสินะ ขอโทษที เขียนแบบขอไปทีอย่างนั้นก็งี้แหล่ะ"
"จะเป็นไงก็ช่างเถอะ ยังไงก็คงไม่แบ่งกระดูกให้พวกเราแทะอยู่ดี"
"นั่นก็จริง แต่ว่า ถ้าพวกมันไม่เข้ามา พวกเราจะโดนว่าเอานะ"
เป็นบทสนทนาราวกับรอทั้งสองเข้าไปอย่างใจจดใจจ่อ
กลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่ทว่า...?
ตอนที่คิดว่าคงไม่รอดแล้วนั้น พอสุนัขล่าสัตว์พังประตูเข้ามา ร้าน "ยามะเนโกะเต" ก็หายวับไปในทันที ได้ไปเจอกันคนนำทางที่พลัดกันไป บุรุษทั้งสองที่อุ่นใจขึ้นมาก็ร้องไห้จนหน้าตายับยู่ยี่ราวกับกระดาษที่ถูกขยำตลอดทางจนกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะกลับถึงโตเกียวก็แล้ว จะแช่น้ำอุ่นก็แล้ว หน้าของทั้งสองคนก็หาได้กลับไปเป็นเหมือนปกติไม่... หน้าของทั้งสองยังคงยับยู่ยี่เหมือนกระดาษที่ถูกขยำไว้อยู่อย่างนั้น
รายการสั่งที่ว่าเยอะนั้น คือคำสั่งของฝั่งร้านอาหารนั่นเอง!!
ตามเรื่องเล่านั้น แม้ว่าสิ่งที่จ้องจะกินชายทั้งสองนั้นไม่ได้ปรากฏตัวออกมาให้เห็นในเนื้อเรื่อง แต่ก็สามารถเข้าใจกันได้ว่า เป็นแมวผี (化け猫 / Bake-neko) ครับ ร้านอาหารชื่อว่า "ยามะเนโกะเต" (ร้านแมวป่า) เอาครีมนมวัวที่ชอบกินมาให้ทา แค่นี้ก็มีคำใบ้กระจายอยู่ทั่วเลยครับ ในญี่ปุ่นนั้นมีตำนานโยไค (妖怪 ภูต) "เนโกะมาตะ" (猫又 / Nekomata) หลงเหลืออยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศครับ เรื่องเล่าที่ว่า แมวที่อายุยืนมาก ๆ จะพูดภาษาคนได้ เริ่มเปิดปิดบานประตูเองได้นั้น อาจเป็นเรื่องที่ไม่น่ากลัวเลย หรือกลายเป็นเรื่องราวสุดแฟนตาซีไปเลยสำหรับบางประเทศก็ได้นะครับ
ทำไมหน้าของทั้งสองคนจึงเปลี่ยนไปตลอดนับแต่นั้นมา?
แค่ลองคิดว่าหน้าตาที่เปลี่ยนไปนั้นจะรักษาให้หายขาดกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ ก็น่าสะพรึงกลัวแล้วครับ
ตัวผู้เขียนกล่าวว่า เขาปรารถนาให้ทั้งโลกสงบสุขสันติ และรู้สึกว่าตัวเองปฏิเสธการใช้ชีวิตแบบที่ต้องสังเวยชีวิตผู้อื่นอย่างแรงกล้า
มันเป็น "การวิพากษ์วิจารณ์ความเย่อหยิ่งของมนุษย์" ในเรื่องเล่าเรื่องนี้ แมวนั้นกำลังจะกินคน ปกติพวกเราเป็น "ฝ่ายกิน" การจะเป็น "ฝ่ายถูกกิน" นั้นก็แทบไม่มีเลย ด้วยเหตุนี้ การหมายเอาชีวิตเพื่อนำมาบริโภคจึงเป็นเรื่องปกติ แต่ถ้าลองคิดให้ดี การกระทำเช่นนี้ก็ไม่ได้เป็นเรื่องปกติเสียแต่อย่างใด
หากลองมองในแง่ว่าเป็นการลงทัณฑ์แก่มนุษย์ที่ลืมความสำคัญของชีวิตทุกชีวิตไป คงพอจะจับใจความสำคัญของเรื่องเล่านี้ได้กัยบ้างสินะครับ
Comments