แนะนำผู้โชคดีทั้ง 2 ท่านและสต๊าฟจาก FUN! JAPAN
จากกิจกรรมมอนิเตอร์ทัวร์ลุ้นเที่ยวเมืองโอคายาม่าฟรีที่ผ่านมา วันนี้ก็เป็นวันที่ทางสต๊าฟ FUN! JAPAN ได้เดินทางไปรอรับผู้โชคดีทั้ง 2 ท่าน คือ "คุณขวัญ" และ "คุณอั๋น" ที่เดินทางจากประเทศไทยมายังท่าอากาศยานนานาชาติคันไซค่ะ และจุดหมายต่อไปของเราก็คือ "จังหวัดโอคายาม่า เมืองโอคายาม่า" ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคชูโกกุไม่ไกลจากโอซาก้าค่ะ เราไปดูบรรยากาศกันเลยดีกว่า
เนื่องจากในปี 2020นี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ทำให้ปีนี้เราจะไม่สามารถจัดแคมเปญท่องเที่ยวไปยังจังหวัดโอคายาม่าได้ แต่ครั้งนี้ เราได้จัดแคมเปญมอบของขวัญสุดหรูจากจังหวัดโอคายาม่าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่นแทนค่ะ!
รายละเอียดของแคมเปญจะโพสต์ไว้ในบทความนี้ ดังนั้นอ่านบทความให้จบนะคะ
เดินทางจากโอซาก้าไปยังเมืองโอคายาม่า
จากท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ เราเริ่มเดินทางโดยการนั่งรถไฟไปยังสถานี Shin-Osaka ก่อนค่ะ โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที และจากสถานี Shin-Osaka เราจะนั่งชิงคันเซ็นต่อไปยังเมืองโอคายาม่า โดยใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น และสำหรับการเดินทางครั้งนี้เราใช้ JR Kansai Wide Area Pass ซึ่งครอบคลุมการเดินทางทั่วคันไซจากโอซาก้าไปถึงโอคายาม่าเลย มีระยะเวลาการใช้งาน 5 วัน สะดวกสุดๆไปเลยใช่มั้ยล่ะคะ
เส้นทางท่องเที่ยววัน 1 : ปราสาทโอคายาม่า → สวนโคระคุเอ็น → ช็อปปิ้งในเมือง
ใส่ชุดกิโมโนชมปราสาทที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายทางประวัติศาสตร์ของปราสาทโอคายาม่า
สถานที่ท่องเที่ยวที่หากคุณมาเยือนโอคายาม่าแล้วพลาดไม่ได้เลยคือ “ปราสาทโอคายาม่า” การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย เพียงแค่นั่งรถไฟจากสถานี Okayama ไปลงที่สถานี Shiroshita ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น! เพียงแค่ออกจากสถานีและเดินเท้าต่อประมาณ 10 นาทีคุณจะได้เห็นความงดงามของปราสาทโอคายาม่าเลย และปราสาทนี้ได้รับการลงทะเบียนว่าเป็นโบราณสถานแห่งชาติ แถมยังมีชื่ออีกชื่อคือ “U-jo (ปราสาทอีกา)” ซึ่งตั้งตามสีปราสาทด้านนอกที่ดำเหมือนอีกา และมีชื่อเสียงในฐานะปราสาทที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับปราสาทสีขาวของปราสาทฮิเมจิ
ภายในปราสาทนั้นไม่เพียงแต่การเดินชมอย่างเดียวเท่านั้น แต่ที่ปราสาทโอคายาม่ายังมีกิจกรรมขวัญใจของเหล่านักท่องเที่ยว คือ “การลองสวมใส่ชุดกิโมโน” อีกด้วย และครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผู้โชคดีทั้ง 2 ท่านเลย เรียกได้ว่าแต่ละคนนั้นตื่นเต้นกันสุดๆ รัวชัตเตอร์กันใหญ่เลยล่ะ!
ชมสวนที่ได้รับการยกย่องว่างดงามติดอันดับ 1 ใน 3 ของสวนญี่ปุ่น ณ สวนโคระคุเอ็น
หลังจากที่เต็มอิ่มกับการใส่ชุดกิโมโนชมปราสาทแล้ว อีกหนึ่งสถานที่ที่หากได้มาโอคายาม่าแล้วต้องมาเลยก็คือ “สวนโคระคุเอ็น” โดยสวนนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลปราสาทโอคายาม่าเลยค่ะ สามารถเดินเท้าจากปราสาทมาได้ง่ายๆ “สวนโคระคุเอ็น” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ของสวนญี่ปุ่นที่ได้รับการยกย่องว่ามีภูมิสถาปัตย์งดงามที่สุด เป็นสถานที่ชมธรรมชาติยอดนิยมที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและคนในท้องถิ่นตลอดปี
พอได้มาเห็นของจริงแล้วต้องบอกเลยค่ะว่าทั้งสวยและสงบมากจริงๆ เหมาะกับการมาเดินเล่นและพักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ใครที่อยากฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจล่ะก็ขอแนะนำให้มาที่นี่เลย
เที่ยวโอคายาม่าก็สามารถเต็มอิ่มกับแหล่งช็อปปิ้งได้
หลายคนอาจมีภาพลักษณ์ว่าโอคายาม่านั้นเป็นเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ แต่เพื่อนๆทราบมั้ยคะ ว่าที่จริงแล้วที่นี่ก็มีแหล่งช็อปปิ้งมากมาย อาทิ ห้าง Aeon Mall ขนาดใหญ่ ดองกี้โฮเตและอื่นๆอีกมากมายที่คุณสามารถสนุกสนานได้ไม่แพ้ที่ใดเลย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนหรืออายุเท่าไหร่ก็ตาม หลังจากที่เราได้พาผู้โชคดีแวะไปทานอาหารเย็นเติมพลังเสร็จแล้ว ก็เป็นช่วงเวลาช็อปปิ้งนั่นเองค่ะ เพื่อนๆสามารถหาซื้อทั้งของที่ระลึกที่มีเฉพาะในโอคายาม่า ของทางเล่นและอื่นๆอีกมากมาย เรียกได้ว่า โอคายาม่านั้นมีครบทุกอย่างเลยล่ะ
เส้นทางท่องเที่ยววัน 2 : ข้ามไปจังหวัดคากาว่า เกาะนาโอชิมะ → ชายหาดจิจิบุกาฮามะ
ตามล่าหาฟักทองที่ “เกาะนาโอชิมะ” เกาะสวรรค์ของคนรักศิลปะ
หากใครได้ดูโซเชียลมีเดียอาจจะสงสัยว่า “เอ..รูปฟักทองยักษ์สีแดงนี้มันอยู่ที่ไหนนะ” กันใช่มั้ยล่ะคะ เราจะมาเฉลยค่ะ ที่ตั้งของจุดถ่ายรูปยอดนิยมอย่างฟักทองยักษ์สีแดงนี้อยู่ที่ “เกาะนาโอชิมะ จังหวัดคากาว่า” นั่นเอง! เกาะนาโอชิมะนั้นเป็นเกาะที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงทั้งในหมู่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นและต่างประเทศเป็นอย่างมาก เป็นเกาะที่เต็มไปด้วยศิลปะและสถาปัตยกรรมเข้าด้วยกันอย่างลงตัว แลนด์มาร์กของที่นี่เลยคงไม่พ้นงานศิลปะของศิลปินชื่อดังอย่าง Yayoi Kusama ผู้รังสรรค์ผลงานฟักทองจุดนี้ โดยฟักทองแดงนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของเกาะเลยค่ะ ใครที่ชอบถ่ายรูป อยากมีรูปภาพเก๋ๆมาอัพลงโซเชียลมีเดียล่ะก็ไม่ควรพลาดเลย!
สำหรับเกาะชื่อดังอย่างนาโอชิมะนั้นเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมก็จริงแต่หากเดินทางมาจากโอซาก้าโดยตรงนั้นค่อนข้างไกลและใช้เวลานานมาก แต่ถ้าหากเพื่อนๆเลือกมาพักที่โอคายาม่าล่ะก็สามารถไปเที่ยวเกาะนาโอชิมะได้แบบง่ายๆสบายเลยล่ะค่ะ
การเดินทางจากจังหวัดโอคายาม่าไปจังหวัดคากาว่านั้นง่ายนิดเดียวเอง เพียงแค่นั่งรถไฟจากสถานี Okayama ไปลงสถานี Uno โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาทีเท่านั้น จากนั้นก็นั่งเรือเฟอร์รีต่อไปยังเกาะนาโอชิมะได้เลยโดยใช้เวลาเพียง 20 นาทีค่ะ
ไม่ต้องไปชมทะเลเกลือไกลถึงโบลิเวีย เพราะที่ชายหาดจิจิบุกาฮามะก็มีเหมือนกัน!
ชายหาดจิจิบุกาฮามะนั้นเป็นชายหาดที่มีความยาว 1 กิโลเมตรและยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงตามช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีลักษณะคล้ายคลึงกับทะเลเกลืออูยูนิ ในโบลิเวีย อเมริกาใต้ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก จึงได้รับสามัญนามว่า “ทะเลเกลือญี่ปุ่น” ที่นี่ได้รับคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงามของพระอาทิตย์ตกดินมากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และยังเป็นจุดถ่ายรูปที่งดงามมากเหมาะกับการมาอัพรูปลงโซเชียลมีเดียสุดๆ
สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่ทั้งสต๊าฟ FUN! JAPAN และผู้โชคดีทั้ง 2 ท่านถึงกับตะลึง เพราะสวยมากจริงๆค่ะ บรรยากาศโรแมนติกเหมือนกับในรูปถ่ายเลย ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่เดินทางได้ง่ายจากจังหวัดโอคายาม่าเช่นเดียวกันค่ะ!
หลังจากที่เราเดินทางไปเกาะนาโอชิมะแล้ว เราก็จะไปต่อที่ชายหาดจิจิบุกาฮามะโดยการนั่งเรือเฟอร์รีจากเกาะนาโอชิมะไปยังฝั่งทาคามัตสึค่ะโดยใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากนั้นนั่งรถไฟจากสถานี Takamatsu ไปยังสถานี Takuma ใช้เวลาประมาณ 60 นาที จากนั้นนั่งสามารถนั่งรถบัสไปยังชายหาดจิจิบุกาฮามะได้ แต่สำหรับรถบัสที่นี่ค่อนข้างมีจำนวนน้อย เราจึงขอแนะนำให้เดินทางด้วยแท็กซี่จะสะดวกกว่าค่ะ
แวะสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับสัมผัสกับต้นกำเนิดนิทานพื้นบ้านโมโมทาโร่ ณ ศาลเจ้าคิบิตสึ
คาดว่ามีใครหลายๆคนคงเคยได้ยินนิทานพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นอย่าง “โมโมทาโร่” กันมาบ้างนะคะ สำหรับศาลเจ้าคิบิตสึนั้นมีความเกี่ยวพันอย่างใกล้ชิดกับเทพเจ้าที่เป็นที่มาของโมโมทาโร่และยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพองค์นี้ โดยศาลเจ้าแห่งนี้สร้างขึ้นเมื่อประมาณ 600 ปีก่อน ที่นี่ได้รับการกำหนดให้เป็นสมบัติของชาติ และทางเดินยาวเก่าแก่อันอันสวยงามทางด้านขวามือในศาลเจ้าที่มีความยาวถึง 400 เมตรก็เป็นจุดถ่ายรูปที่ไม่ควรพลาด!
และครั้งนี้เรายังมีโอกาสได้เข้าชมพิธีทางศาสนาชินโต Narukama ซึ่งเป็นพิธีกรรมคือดูดวงด้วยการฟังเสียงข้าวจากหม้อหุงข้าวโบราณ โดยที่นี่มีคำเล่าขานว่ามีหัวของยักษ์ฝังอยู่ข้างใต้หม้อ ซึ่งคุณสามารถฟังเสียงจากหม้อหุงข้าวได้ว่าคำอธิษฐานของคุณจากที่นี่นั้นจะเป็นจริงหรือไม่ พิธีกรรมนี้มีเฉพาะที่ศาลเจ้าคิบิตสึเท่านั้น หากใครได้มาแล้วควรแวะมาลองชมดูสักครั้ง
※ ตามปกติแล้วไม่สามารถถ่ายรูปด้านในได้ แต่ทาง FUN! JAPAN ได้รับสิทธิ์พิเศษจากทางศาลเจ้าให้สามารถ่ายรูปด้านในได้ค่ะ
อิ่มท้องไปกับกิจกรรมเก็บองุ่นพันธุ์มัสคัส บุฟเฟ่ต์ทานไม่อั้น ณ ฟาร์มคุโบะ
สำหรับองุ่นญี่ปุ่นพันธุ์มัสคัสอเล็กซานเดียร์ (Muscat of Alexandria) นั้นหาทานได้ยากในประเทศไทย องุ่นสายพันธ์มัสคัสนั้นเป็นองุ่นสีเขียวที่มีกลิ่นหอมหวาน ใครที่ชื่นชอบการรับประทานองุ่นต้องลองสายพันธุ์นี้เลยค่ะ รับรองว่าถูกใจแน่นอน และในวันนี้เราได้มีโอกาสพาผู้โชคดีทั้ง 2 ท่านไปเที่ยวชมฟาร์มคุโบะในเมืองโอคายาม่า แถมยังได้ลองเก็บองุ่นบุฟเฟ่ต์ทานกันแบบไม่อั้นอีกด้วย เรียกได้ว่าทั้งสนุกและอิ่มสุดๆกันไปเลย
เสียงตอบรับจากผู้โชคดีทั้ง 2 ท่าน
คุณขวัญ
“การได้เข้าร่วมมอนิเตอร์ทัวร์ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้เรียนรู้ทั้งวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอย่างลึกซึ้ง ปกติขวัญเป็นคนที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นอยู่แล้วจึงรู้สึกสนุกมากเลยค่ะ และสถานที่ที่ชอบที่สุดจากทัวร์ครั้งนี้คือ “สวนโคระคุเอ็น” ซึ่งเป็นเหมือนตัวแทนที่ใครๆก็รู้จักของเมืองโอคายาม่าแห่งนี้ ขวัญรู้สึกทั้งเต็มอิ่มกับธรรมชาติอันสวยงาม ได้มองทิวทัศน์ที่ปกคลุมไปด้วยสีเขียวแล้วรู้สึกเหมือนได้รับการเยียวยาสุดๆไปเลยค่ะ ที่สำคัญ เมืองนี้ก็ยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับนิทานโบราณชื่อดังในญี่ปุ่นอย่างโมโมทาโร่อีกด้วย เรียกได้ว่าน่าสนใจมากๆ ถ้าขวัญมีโอกาสก็อยากจะกลับมาเที่ยวที่โอคายาม่าใหม่อีกครั้งค่ะ”
คุณอั๋น
“สำหรับมอนิเตอร์ทัวร์ครั้งนี้ทำให้ได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวญี่ปุ่นและวัฒนธรรมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่แล้วถ้าพูดถึงญี่ปุ่นก็มักจะนึกถึง “โตเกียว” ไม่ก็ “โอซาก้า” แต่ที่จริงแล้วยังมีสถานที่ Unseen ที่น่าสนใจอีกมากมายอย่างเช่นเมืองโอคายาม่า และในครั้งนี้การได้ไปท่องเที่ยวพร้อมกับสมาคมการท่องเที่ยวเมืองโอคายาม่าและสต๊าฟจาก FUN! Japan ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ ได้พาพวกเราไปหลายๆที่และยังอธิบายเล่าเรื่องราวที่มาและประวัติศาสตร์ของสถานที่นั้นๆได้อย่างน่าสนใจ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอคายาม่านั้นยังมีอีกมากมายที่มาครั้งเดียวก็เที่ยวไม่หมด ครั้งหน้าก็อยากจะกลับมาที่นี่อีกครับ”
และสุดท้ายนี้ เพื่อนๆคนไหนที่อยากลองดูสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆที่น่าสนใจในเมืองโอคายาม่าอีกล่ะก็ อาทิ เขตอนุรักษ์คุราชิกิบิคัง พิพิธภัณฑ์โมโมทาโร่ คาเฟ่แสนน่ารักเหมาะกับการลงโซเชียล และอีกมากมาย สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://pantip.com/br_topic/nx2WbZEe
แจกของรางวัลจากจังหวัดโอกายาม่าฟรีเพียงแค่ตอบแบบสอบถามเท่านั้น！
สำหรับคนที่คิดถึงญี่ปุ่น เราได้จัดแคมเปญเพื่อที่จะมอบของขวัญอันสุดหรูจากจังหวัดโอคายาม่าซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในญี่ปุ่น！โดยการตอบแบบสอบถามง่ายๆ และทางเราจะทำการเลือกผู้โชคดี 10 ท่านจากการตอบแบบสอบถามเพื่อมอบของรางวัลจากจังหวัดโอคายาม่า จังหวัดโอคายาม่ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายเช่น เป็นเมืองที่เป็นบ้านเกิดของตำนานนิทานเก่าแก่ของญี่ปุ่นอย่าง "โมโมทาโร่" และเมืองที่ผลิตยีนส์ชื่อดังที่นักยีนส์จากทั่วทุกมุมโลกปรารถนาคือเมือง "โคจิมะ" เป็นต้น ซึ่งนอกจากนี้แล้วก็ยังมีสถานที่น่าสนใจอีกมากมายค่ะ
ในแคมเปญนี้จะมีของรางวัลที่ทำจากยีนส์ของเมืองโอคายาม่า กระเป๋าใส่ของ พัดญี่ปุ่น ฯลฯ ซึ่งการเข้าร่วมแคมเปญนั้นก็สมัครได้ง่ายมาก มาชมรายละเอียดของแคมเปญและสมัครเข้าร่วมตามด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ!
Comments