รถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่าเป็นรถตลาดที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก แต่ปัจจุบันก็ได้ออกโมเดลหรูมามากมาย แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงผลิตรถยนต์เบสิคคาร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาที่จับต้องได้และแข็งแรงทนทานเป็นจุดเด่นของรถยนต์ญี่ปุ่นก็ว่าได้ เราได้คัดเลือกมา 5 รุ่นที่แสนดีและแสนถูกมาให้ชมกันค่ะ
Alto (Suzuki) 723,600 เยน(ประมาณ220,000 บาท)
Alto เป็นรุ่นที่ใครๆ ก็ต้องรู้จักเพราะเป็นรถเล็กที่มีชื่อเสียง เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปีค.ศ.1979 ตอนนี้ก็ครบรอบ 40 ปีพอดี ช่วงแรกๆ ที่ออกมาใหม่นั้นราคาเพียงแค่ 470,000 เยน สำหรับรุ่นปัจจุบันสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากถึง 200 กก. ขายในราคา 723,600 เยน ก็ถือว่าถูกมากเมื่อเทียบกันรถรุ่นอื่น ภายในมีเนื้อที่ค่อนข้างจำกัด ผู้ใหญ่นั่งได้ 4 คน ปัจจุบันกลายเป็นยานพาหนะยอดนิยมสำหรับคนทั่วไป หากใครที่ชอบกว้างนั่งสบายกว่านี้ก็มีรุ่นราคา 847,800 เยน(ประมาณ250,000 บาท)
Mira e:S (Daihatsu) เริ่มต้น 842,400 เยน(ประมาณ250,000 บาท)
รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ออกมาตีตลาด Alto เปิดตัวเมื่อปีค.ศ.1980 มีประวัติศาสตร์ยาวนานเช่นกัน ปัจจุบันวางขายในชื่อรุ่น Mira e:S แต่จะต่างจาก Alto ตรงที่ไม่เหมาะกับการบรรทุกของหนักสักเท่าไหร่ สำหรับรุ่นรถนั่งราคา 842,400 เยน จะถูกกว่า Alto เล็กน้อย เครื่องยนต์และเกียร์ติดตั้งมาสามารถวิ่งได้ 160,000 กม. เรียกได้ว่าราคาสุดคุ้มแถมยังใช้งานได้ยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก
March (Nissan) เริ่มต้น 1,151,280 เยน(ประมาณ 345,000 บาท)
ด้วยเครื่องยนต์ 1.2 ลิตร วิ่งระยะทางไกลได้นานกว่ารถอีโค่คาร์อื่นๆ ถือเป็นจุดเด่นของมาร์ชก็ว่าได้ รุ่นปัจจุบันที่จำหน่ายอยู่นั้นได้ผลิตที่ประเทศไทยและนำเข้ามาขายในญี่ปุ่น ด้วยราคาน่ารัก 1,151,280 เยน มีสีให้เลือกมากถึง 11 สี เป็นที่ถูกใจในกลุ่มลูกค้าผู้หญิงเป็นอย่างมาก
Passo (Toyota) เริ่มต้น 1,177,200 เยน(ประมาณ350,000 บาท)
Passo รถเล็กภายใต้การคิดค้นและพัฒนาของกลุ่มโตโยต้าและไดฮัตสุ เครื่องยนต์และแชสซีเหมาะสำหรับรถขนาดเล็ก แต่ภายในกว้างขวางเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ แถมยังประหยัดน้ำมันอีกต่างหาก ตอนที่ผู้เขียนได้ทดลองขับอยู่ที่ 25 กม./ลิตร
N-VAN (Honda) เริ่มต้น 1,197,720 เยน(ประมาณ360,000 บาท)
แต่เดิมรถคอมเมอร์เชียลแวนเป็นรถที่มุ่งเน้นใช้ในการทำงานจึงไม่เน้นในการออกแบบดีไซน์ ทางฮอนด้าจึงต้องการเน้นกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบรถประเภทนี้แต่ไม่ชอบดีไซน์แบบเดิมๆ จึงได้จำหน่ายรุ่น N-VAN เมื่อปี 2018 สามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากถึง 350 กก. แน่นอนว่าสามารถครองใจกลุ่มลูกค้าและประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก หากเพิ่มเงินอีก 72,000 เยน(ประมาณ21,600 บาท)ก็จะได้เป็นเกียร์อัตโนมัติ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับรถญี่ปุ่นราคาเบาๆ แม้ราคาจะไม่แพงแต่ก็สมรรถนะน่าดึงดูดใจ สนใจรับสักคันไหมคะ?
Comments