สวัสดีค่ะทุกคน มาพบกับอาโอชิโสะอีกครั้งนะคะ
สำหรับครั้งที่ 3 นี้ เราจะพาไปรู้จักแหล่งท่องเที่ยวกลางคืนที่เรียกกันว่า “คาบาคุระ” กันค่ะ
คาบาคุระคืออะไร?
สถานที่ที่เรียกว่าคาบาคุระ จะมีพนักงานสาวที่เรียกว่า “โฮสเตส”หรือ”คาบาคุระโจ” นั่งที่โต๊ะคอยต้อนรับลูกค้า ซึ่งลูกค้าชาย 1 คนก็จะมีพนักงานสาว 1 คนคอยต้อนรับ
ครั้งก่อนเราได้แนะนำเกิลส์บาร์กันไปแล้ว พนักงานส่วนมากจะพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องการสื่อสาร บางร้านจึงปฏิเสธลูกค้าชาวต่างชาติ
ส่วนคาบาคุระจะต่างกับเกิลส์บาร์เพราะหากพูดไม่ได้ก็จะทำให้หมดสนุกกันพอดี
ทางร้านจะต้องขอใบอนุญาตสถานประกอบการพิเศษ สามารถเปิดได้ถึงเที่ยงคืน พนักงานต้องมีอายุมากกว่า 18 ปีขึ้นไป หากจะเลือกร้านที่เข้าไปใช้บริการก็ควรระมัดระวัง เพราะมีบางร้านที่เปิดแบบไม่ได้ขอใบอนุญาตก็มีเช่นกัน
ระบบราคาคาบาคุระ
เวลาเช็คบิลคาบาคุระก็จะมีค่าเซ็ต ค่าบริการ และภาษี
ค่าเซ็ต
ที่ร้านคาบาคุระจะมีระบบค่าเซ็ต ซึ่งเป็นราคาที่คิดตามชั่วโมงที่ใช้บริการ เช่น 1 เซ็ต จะมีเวลา 50 – 60 นาที ในราคานี้จะรวมค่าโต๊ะและค่าเฮ้าส์บ็อตเทิลอยู่ด้วย ราคาเซ็ตละประมาณ 3000 – 8000 เยน
ค่าบริการ
เป็นค่าบริการที่จ่ายให้สาวๆ คาบาคุระ ซึ่งอยู่ที่ 10％〜30％ ของยอดที่มาใช้บริการ
ภาษี
แม้จะบอกว่าเป็นค่าภาษี แต่สำหรับร้านคาบาคุระจะต่างออกไป ซึ่งทางร้านมักจะบวกเพิ่มกว่าค่าภาษีปกติ มักจะเก็บจากลูกค้า 10％〜30％ ของยอดที่มาใช้บริการ
ค่ารูดบัตรเครดิต
หากชำระด้วยบัตรเครดิต ทางร้านมักจะชาร์จค่ารูดบัตร 10％〜20％
ค่าระบุเลือกคน
หากมีสาวคาบาคุระที่ชอบและอยากให้อยู่ประจำที่โต๊ะตลอดก็จะมีค่าระบุเลือกคนเพิ่มเติม แต่ถ้าไม่เลือกคนก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้ สำหรับค่าเลือกคนอยู่ที่ 1 เซ็ต 1000 – 3000 เยน
ค่าต่อเวลา
หากใช้บริการเกินจากเซ็ตก็จะมีค่าต่อเวลาเพิ่ม เช่น ต่อ 30 นาทีจะมีค่าใช้จ่าย 3000 – 5000 เยน หรือหากต่อ 60 นาทีจะมีค่าใช้จ่าย 5000 – 10000 เยน
ค่าเครื่องดื่มและค่าอาหาร
ในค่าเซ็ตจะมีค่าเฮ้าส์บ็อตเทิลและค่าเครื่องดื่มรวมอยู่ด้วย แต่หากต้องการดื่มอย่างอื่นหรือเลี้ยงเครื่องดื่มให้แก่พนักงานก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ค่าเครื่องดื่มประมาณแก้วละ 1500 เยน หากสั่งเป็นขวดก็อยู่ที่ 4000 เยนขึ้นไป เครื่องดื่มราคาแพงแบบราคาเป็นล้านเยนก็มีเช่นกัน ส่วนราคาค่าอาหารก็หลากหลาย มีตั้งแต่ 1000 – 30000 เยน
ข้อระวังที่ควรทราบ 3 ข้อในการไปเที่ยวคาบาคุระ
１．เช็คราคาให้ชัดเจนก่อนเข้าร้าน
จากที่เคยเล่าไปแล้วว่าแต่ละร้านก็จะมีระบบที่แตกต่างกัน บางทีก็มีการเรียกเก็บเงินสูงกว่าที่คิดไว้ บางทีก็มีร้านหลอกลวง “เก็บเงินสูงกว่าความเป็นจริง” คนญี่ปุ่นบางคนก็เจอเหมือนกัน และบางร้านก็เล็งลูกค้าชาวต่างชาติที่สื่อสารภาษาไม่ค่อยได้ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเข้าร้านก็ควรเช็คราคาต่างๆ และค่าเครื่องดื่มให้ดีก่อน
２．ไม่แตะต้องตัวผู้หญิง
แน่นอนว่าทางร้านห้ามแตะต้องตัวผู้หญิงเป็นอันขาด สาวคาบาคุระจะนั่งดื่มและนั่งคุยเพื่อสร้างความสนุกสนานเท่านั้น หากพบว่ามีการแตะต้องตัวอาจไม่จบเพียงแค่การตักเตือน และอาจจะเป็นเรื่องเป็นราวถึงโรงพักก็เป็นได้
３．ไม่นั่งดื่มเป็นเวลานานเกินไป
การได้นั่งดื่มกับสาวก็อาจทำให้เพลินจนลืมเวลา แต่สำหรับที่คาบาคุระนั้นแนะนำว่าอย่านั่งนานเลยดีกว่าค่ะ เพราะยิ่งนั่งนานก็ยิ่งต้องจ่ายราคาแพงมากขึ้น เป็นไปได้ก็อยู่สัก 1 หรือ 2 ชั่วโมงก็พอแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเช็กบิลที่ราคาแพงด้วย
ย่านที่มีคาบาคุระในโตเกียว
สุดท้ายนี้ เราจะแนะนำย่านที่มีร้านคาบาคุระในโตเกียวกัน
ชินจุกุ คาบุกิโจ
ย่านราตรีที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น มีร้านรวงมากมาย และคาบาคุระก็เช่นเดียวกัน เป็นย่านที่นักท่องเที่ยวสามารถไปได้ง่าย
อิเคะบุคุโระ
ย่านที่ดูเจริญแต่ก็มีบรรยากาศแบบเมืองใหญ่ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งของซาลารี่แมน มีย่านท่องเที่ยวกลางคืนมากมาย และคาบาคุระ เป็นที่นิยมสำหรับคนหลากหลายวัย
ชิบุย่า
ย่านวัยรุ่นชิบุย่า ในย่านนี้คาบาคุระก็คึกคักไม่แพ้กัน หากอยากนั่งดริ๊งค์คุยกับสาวๆ ก็แนะนำย่านนี้เลย
รปปงหงิ กินซ่า
คาบาคุระในย่านนี้ก็จะพิเศษหน่อย ในย่านที่มีตึกสูงระฟ้ามากมาย ราคาเมื่อเทียบกับที่อื่นก็จะแพงหน่อย แน่นอนว่าสาวๆ ก็จะเป็นอีกระดับด้วย
เป็นยังไงกันบ้างคะ ที่จริงร้านคาบาคุระมักเป็นที่ที่เหล่าพนักงานบริษัทพาลูกค้ามาเอนเตอร์เทน รู้สึกแปลกๆ กับวัฒนธรรมญี่ปุ่นไหมคะ?
แล้วพบกันใหม่ในตอนที่ 4 นะคะ! ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
※บทความนี้เป็นเรื่องราวที่แนะนำข้อควรระวังในการเที่ยวยามราตรีที่ญี่ปุ่นสำหรับชาวต่างชาติ ไม่ได้เป็นบทความที่ FUN! JAPAN แนะนำร้าน
Comments