ยะไต ร้านอาหารริมทางอันขึ้นชื่อของจังหวัดฟุกุโอกะ
สำหรับคำว่า "ยะไต" (屋台 / Yatai) ตามความหมายตามตัวอักษรจะแปลว่า “ร้านแผงลอย” แต่ในที่นี้เราขออนุญาตเรียกว่าร้านรถเข็นนะคะ นั่นก็เพราะว่าร้านเหล่านี้สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยล้อที่ติดอยู่ด้านข้างนั่นเองค่ะ
และแม้ชื่อจะฟังดูเหมือนจะตั้งตรงไหนก็ได้ตามอิสระ แต่แท้จริงแล้วแต่ละร้านจะมีที่เฉพาะที่ทางเทศกิจจัดสรรมาให้ของตนเองค่ะ ซึ่งเวลาในการเข็นร้านมาตั้งได้ก็อยู่หลัง 6 โมงเย็นเป็นต้นไปค่ะ
ด้วยเหตุนี้ เราจึงแนะนำให้มาสักประมาณ 5 โมงเย็นค่ะ คุณก็จะได้เห็นบรรยากาศการจัดร้านตั้งร้านยะไตอันน่าทึ่งจนแทบไม่น่าเชื่อว่ารถเข็นเล็กๆขนาดกระทัดรัดจะกลายร่างเป็นร้านให้นั่งทานได้ อย่างกับหุ่นยนต์แปลงกลายจากรถเป็นครัวเคลื่อนที่เลยทีเดียวเชียวค่ะ
ประวัติความเป็นมาของร้านยะไตในญี่ปุ่น
ว่ากันว่าร้านแบบยะไตมีต้นกำเนิดมาจากสมัยเอโดะค่ะ ในช่วงสมัยเอโดะ อาหารการกินถือเป็นภาระที่หนักหนาสาหัสสำหรับเหล่านักรบซามูไรที่ต้องเดินทางข้ามไปทั่วประเทศญี่ปุ่น เพราะกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เหล่าพ่อค้าในสมัยที่สังเกตเห็นจึงนำอาหารที่สามารถทำได้ง่าย เช่น โซบะ ข้าวปั้นซูชิ (นิกิริซูชิ) เทมปุระ และอื่นๆมาขายตามทางให้ได้อิ่มท้อง นี่น่าจะเป็นต้นแบบแรกของร้านยะไตค่ะ
หลังสงครามได้เกิดปัญหาการขาดแคลนอาหาร จำนวนของตลาดแผงลอยมืดก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากปัญหาต่างๆเช่นสุขอนามัย การใช้พื้นที่ถนนโดยไม่ได้รับอนุญาต และความสวยงามของทิวทัศน์บ้านเรือน จึงมีการออกกฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นโดยรัฐบาลท้องถิ่น กลายเป็นเรื่องยากที่จะเห็นร้านยะไตในปัจจุบัน
คู่มือแนะนำร้านยะไตในฟุกุโอกะ
ด้วยกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นทั้งเรื่องสถานที่และสุขอนามัย ปัจจุบันจึงมีร้านแบบยะไตเหลือเพียงประมาณ 150 ร้านเท่านั้นในย่านเท็นจิน (天神 / Tenjin) ย่านอะคาซากะ (赤坂 / Akasaka) ย่านนากาสึ (中洲 / Nakasu) และย่านนางาฮามะ (長浜 / Nagahama) ค่ะ ทั้งๆที่หากย้อนกลับไปเพียง 50 ปีก่อนนั้นก็มีจำนวนร้านมากเป็นสามเท่าเลยค่ะ
ย่านเท็นจิน
ย่านเท็นจินอยู่ห่างจากสถานี Tenjin ไปประมาณ 5 นาทีโดยรถไฟใต้ดิน มีสวนสาธารณะเคโงะ (警固公園 / Kego Koen) และศาลเจ้าเคโงะ (警固神社 / Kego Jinja) แม้ว่าจะเป็นย่านที่มีผู้คนจำนวนมากในเวลากลางวัน แต่เมื่อร้านยะไตเริ่มปรากฏตัวขึ้นในเวลากลางคืน ผู้คนก็มารวมตัวกันที่ร้านยะไตค่ะ ถนนวาตานาเบะโดริ (渡辺通り / Watanabe-dori) มีร้านยะไตตั้งกันเรียงราย กลายเป็นที่รวมตัวกันของพนักงานออฟฟิศและคนหนุ่มสาวค่ะ
ย่านนางาฮามะ
ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีจากสถานี Akasaka บนรถไฟใต้ดินสาย Airport (空港 / Kuko) และอยู่ทางใต้ไปเพียงเล็กน้อยจากตลาดขายส่งปลากลางเมืองฟุกุโอกะ (福岡市中央卸売鮮魚市場 / Fukuoka-shi Chūō Oroshiuri Sengyo Ichiba) นี่คือบ้านเกิดของร้านนางาฮามะยะไตราเมน (長浜屋台ラーメン / Nagahama Yatai Ramen) ราเมนรสเลิศที่คุณสามารถลิ้มลองได้ที่ร้านยะไตในพื้นที่จริง และราเมนซุปกระดูกหมูสีขาวนั้นก็อร่อยมากเลยค่ะ
ย่านนากาสึ
ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีจากสถานี Nakasu Kawabata บนรถไฟใต้ดินสาย Airport และเดินต่อไปทางตะวันตกเฉียงใต้จากสวนสาธารณะเรเซ็น (冷泉公園 / Reisen Koen) ด้วยแสงไฟนีออนของนากาสึและทิวทัศน์ริมแม่น้ำ อย่าลืมเก็บภาพสวยๆมาด้วยนะคะ! นอกจากของเด็ดที่มีความเป็นฮากาตะแล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับอาหารตะวันตก เทมปุระ และอื่นๆได้ด้วยค่ะ
ร้าน "Wazzeka!!" ในนากาสึ
วันนี้ ทีมงาน FUN! JAPAN ได้เดินทางไปลองชิมร้านยะไตที่ชื่อว่า *Wazzeka!!* (わぜっか) ชื่อร้านนั้นเป็นภาษาถิ่นจังหวัดคาโกชิม่า มีความหมายว่า "อร่อยสุดๆ!!" ร้านยะไตร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านนากาสุบนถนนนาคากาว่า (那珂川通り / Nakagawa-dori) บริเวณริมแม่น้ำนาคากาว่า (那珂川) ค่ะ ร้านนี้มีความพิเศษตรงที่บรรยากาศรอบข้างที่ดีเป็นพิเศษค่ะ ตัวร้านอยู่ติดกับแม่น้ำพอดี คุณจึงสามารชมวิวสวยๆ ของแม่น้ำยามค่ำคืนไปพร้อมกันได้ด้วยค่ะ
เมนูอาหาร
- ราเมน (ラーメン) – บะหมี่น้ำ
- ยากิโทริ (焼き鳥) – ไก่ปิ้งเสียบไม้
- มากิโมโนะ (巻きもの) – ของกินที่ม้วนด้วยเบค่อนเป็นชิ้นเล็กๆเสียบไม้ปิ้ง
เมนูเครื่องดื่ม:
- เบียร์ (ビール)
- โชจู (焼酎) – เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของญี่ปุ่นคล้ายวอดก้าทำจากมันเทศหรือข้าวสาลี มีให้เลือกแบบ ร็อค (กินเพียวใส่น้ำแข็ง) มิสึวาริ (ผสมน้ำเปล่า) ยุวาริ (ผสมน้ำอุ่น) และอู่หลงวาริ (ผสมชาอู่หลง)
- อุเมะชู (梅酒) – เหล้าบ๊วย มีให้เลือกแบบ ร็อค (กินเพียวใส่น้ำแข็ง) มิสึวาริ (ผสมน้ำเปล่า) ยุวาริ (ผสมน้ำอุ่น) และโซดาวาริ (ผสมโซดา)
- นิฮงชู (日本酒) – เหล้าญี่ปุ่น มีให้เลือกแบบ อัตสึคัง (อุ่น) และ ฮิยะ (เย็น)
- วิสกี้ (ウィスキー) – มีให้เลือกแบบ ไฮบอลล์ (ผสมโซดา) และ โค๊กไฮ (ผสมโค๊ก)
- ชูไฮ (チューハイ) – ค็อกเทลที่ผสมเหล้าโชจู โซดา มีน้ำมะนาวและน้ำเกรปฟรุ๊ต ให้เลือกค่ะ
- ซอฟท์ดริงค์ (ソフトドリンク) – เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ มี ชาอู่หลง น้ำส้ม และโคล่า ให้เลือกค่ะ
บรรยากาศ
จากที่กล่าวมาทั้งหมด คงจะประทับใจเรื่องบรรยากาศมากที่สุดค่ะ ถึงแม้เวลานั่งทานแสงสว่างก็จะสลัวๆ ไม่สว่างมากนัก ที่นั่งและที่วางอาหารก็อาจจะคับแคบบ้าง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไรเลย พอเริ่มชินกับบรรยากาศกลับยิ่งติดใจเข้าไปใหญ่ค่ะ ยิ่งหากการเดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่นสำหรับคุณแล้วเป็น "การค้นพบ" เจออะไรใหม่ๆแปลกแล้วละก็ การลองมาทานอาหารที่ร้านยะไตก็เป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้ไกลจากชีวิตแบบเดิมๆค่ะ สักพักคุณจะลืมไปเลยว่าทั่งบนเก้าอี้หัวโล้นค่ะ กินบรรยากาศไปพลางทานอาหารไปพลางจนสนุกเลยค่ะราคา
ร้านอาหารแผงลอยแบบนี้ราคาก็จะถูกกว่าร้านอาหารนั่งดื่มแบบอิซากายะค่ะ ที่เราทานกันก็ประมาณ 3600 เยน มีราเมน 1 ชาม ยากิโทริ 1 จาน มากิโมโนะ 1 จาน (3 ไม้) และเบียร์ 2 ที่ค่ะ