สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านทุกท่าน!

ทุกท่านรู้จัก "Visit Japan Campaign" อีเว้นท์ยอดนิยมของ FUN! JAPAN กันไหมคะ? 

Visit Japan Campaign เป็นหนึ่งในอีเว้นท์ยอดนิยมของ FUN! JAPAN ที่จะพาสมาชิกคนรักญี่ปุ่นจากประเทศต่างๆ ในเอเชียไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยกันค่ะ! ยิ่งไปกว่านั้น ทีมงานจาก FUN! JAPAN ก็จะเข้าร่วมทริปด้วย! คุณสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ง่ายๆ เพียงแค่ลงทะเบียนสมาชิก และใช้ FUN! JAPAN POINT ค่ะ 

กิจกรรม Visit Japan Campaign ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2024 คุณ K จากอินโดนีเซีย, คุณ N จากไทย, คุณ P จากมาเลเซีย, คุณ M จากไต้หวัน, คุณ V จากฮ่องกง และคุณ V จากเวียดนาม ได้ร่วมเดินทางไปยัง 3 จังหวัดในภูมิภาคโฮคุริคุ ได้แก่ โทยามะ อิชิคาวะ และฟุคุอิ กับทีมงานจาก FUN! JAPAN ค่ะ

ในครั้งนี้เราจะขอรายงานบรรยากาศการเดินทางครั้งนี้ให้กับทุกท่านค่ะ หากคุณกำลังวางแผนจะไปเที่ยวภูมิภาคโฮคุริคุของญี่ปุ่นแล้วละก็ ห้ามพลาดบทความนี้นะคะ!

วันที่ 1: นั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโฮคุริคุ → ลิ้มรสเมนูขึ้นชื่อของจังหวัดฟุคุอิ "ปลาซาบะย่าง" → เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุคุอิ → วัดเอเฮจิ → แช่ออนเซ็นอาวาระ

วันแรกเรานั่งรถไฟชินคันเซ็นสายโฮคุริคุไปยังจังหวัดฟุคุอิกันค่ะ รถไฟชินคันเซ็นได้เปิดให้บริการเส้นทางระหว่างคานาซาวะ-สึรุกะเมื่อเดือนมีนาคม 2024 ทำให้คุณสามารถเดินทางจากโตเกียวไปยังฟุคุอิได้โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 3 ชั่วโมงด้วยรถไฟชินคันเซ็น โดยไม่ต้องเปลี่ยนขบวนรถไฟ ทำให้การเดินทางไปยังฟุคุอิสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ! มื้อกลางวันเราได้ทาน "ปลาซาบะย่าง" เมนูขึ้นชื่อของฟุคุอิ ปลาย่างไม่มีกลิ่นคาว รสชาติหวานและชุ่มฉ่ำมากเลยค่ะ นอกจากนี้ เมนู "ซอสคัตสึด้ง (ข้าวหน้าหมูทอดราดซอส)" ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนฟุคุอินะคะ

จังหวัดฟุคุอิเป็นที่รู้จักในนามอาณาจักรไดโนเสาร์ ทันทีที่ออกจากสถานีรถไฟก็จะเห็นไดโนเสาร์ที่ถูกตกแต่งอยู่มากมายเลยค่ะ หลังจากรับประทานอาหารกลางวันเสร็จแล้ว เราก็เดินทางไปยังพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์จังหวัดฟุคุอิ ซึ่งเป็นหนึ่งในสามพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก บรรยากาศอันน่าตื่นตาตื่นใจของที่นี่ทำให้รู้สึกราวกับอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง "จูราสสิค พาร์ค" เลยค่ะ ต่อจากนั้น เราได้ไปเยือนวัดเอเฮจิ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 700 ปี วัดอันขรึมขลังแห่งนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันเงียบสงบ และถือเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเยือนจังหวัดฟุคุอิค่ะ

ในคืนนั้นเราเข้าพักที่โรงแรมในอาวาระออนเซ็น หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว พวกเราก็ได้เล่นปิงปอง ร้องคาราโอเกะด้วยกัน ทำให้สนิทกันมากขึ้นอย่างรวดเร็วเลยค่ะ และพอเพลงอนิเมะขึ้น ทุกคนก็เริ่มร้องตามไปพร้อมกัน สร้างโอกาสที่ดีในการสร้างเพื่อนใหม่จากประเทศต่างๆ ผ่านวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่ทุกคนชื่นชอบค่ะ นี่แหละคือเสน่ห์ของแคมเปญ "Visit Japan Campaign" ค่ะ!

วันที่ 2: หน้าผาโทจินโบ → ตลาดโอมิโจ → กิจกรรมติดทองคำเปลวในย่านฮิงาชิชายะ → สวนเคนโระคุเอ็น → ลิ้มรสคานาซาวะโอเด้งที่ร้านอิซากายะ

เช้าวันต่อมา เราเดินทางไปที่หน้าผาโทจินโบกันค่ะ หน้าผาแห่งนี้เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 12-13 ล้านปีก่อน ลาวาที่ไหลออกสู่ทะเลและเย็นตัวลงได้กลายเป็นหินขนาดใหญ่ หลังจากนั้นหินเหล่านี้ก็ถูกกัดเซาะโดยคลื่นทะเลเป็นเวลานานหลายปีจนกลายเป็นแนวแตกเสาเหลี่ยมที่พวกเราเห็นได้ในทุกวันนี้ค่ะ หน้าผาที่สูงที่สุดของที่นี่มีความสูงถึง 25 เมตร และกล่าวกันว่าเสาหินธรรมชาติขนาดมหึมาแบบนี้หาดูได้ยากมากอีกด้วยค่ะ ถ้าหากอากาศดี เราขอแนะนำให้ลองนั่งเรือชมวิวธรรมชาติอันสวยงามจากทะเลดูด้วยนะคะ!

ถ้าหากอยากลิ้มรสอาหารอร่อยที่คานาซาวะแล้วละก็ เราขอแนะนำ "ตลาดโอมิโจ" ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยเอโดะกว่า 300 ปี และเป็นที่รู้จักในนามครัวของชาวคานาซาวะ ที่นี่มีร้านค้ามากถึง 170 ร้าน ตั้งแต่ร้านปลาสด ผักผลไม้ ไปจนถึงร้านอาหารต่างๆ ที่คุณสามารถลิ้มรสชาติเมนูอร่อยในแบบคานาซาวะได้ ไม่ว่าจะเป็นซูชิ ซาชิมิ ข้าวหน้าปลาดิบ และเมนูอาหารย่างต่างๆ นอกจากของสดแล้ว ข้าวปั้นย่างหน้าเนื้อโนโตะ โคร็อกเกะ และราเมงก็เป็นที่นิยมเช่นกันค่ะ ถ้าเริ่มรู้สึกเหนื่อยจากการเดินเที่ยวแล้ว ก็แวะมานั่งพักสบายๆ ลิ้มรสชาติกาแฟและพุดดิ้งคานาซาวะกันนะคะ

หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว เราขอแนะนำให้ไปเดินเล่นในย่านฮิงาชิชายะค่ะ ย่านเมืองเก่าที่มีสถาปัตยกรรมบ้านเรือนแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์กลุ่มอาคารโบราณที่สำคัญแห่งชาติอีกด้วย เมื่อพูดถึงงานหัตถกรรมของเมืองคานาซาวะ ก็ต้องนึกถึง "แผ่นทองคำเปลว" หลังจากที่เลือกจานที่มีลวดลายและสีสันที่ชอบแล้ว ทุกคนก็ได้ลงมือสร้างผลงานของตัวเองภายใต้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิดค่ะ นอกจากนี้ ยังห้ามพลาดลิ้มรสไอศกรีมทองคำเปลวยอดฮิตด้วยนะคะ! จากนั้น เราได้ไปเยือนสวนเคนโระคุเอ็น ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสวนที่สวยงามที่สุดของญี่ปุ่น และสัมผัสกับความสง่างามของสวนที่ถูกสร้างโดยไดเมียวซึ่งเป็นเจ้าแคว้นคางะในอดีตค่ะ

สำหรับมื้อเย็นในวันนี้ เราได้ทาน "โอเด้งคานาซาวะ" ซึ่งใช้วัตถุดิบหลากหลายจากแคว้นคางะ และถูกเคี่ยวเป็นเวลานานในน้ำซุปที่เต็มไปด้วยรสชาติความอร่อย ทำให้เมนูนี้เป็นอาหารท้องถิ่นที่ได้รับความนิยมจากทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยวอีกด้วยค่ะ ในวันที่สอง ทุกคนเริ่มสนิทสนมกันมากขึ้น มีการถ่ายรูปให้กันและกัน และแลกเปลี่ยน Instagram และ Facebook อีกด้วย รู้สึกได้ถึงมิตรภาพที่ก้าวข้ามกำแพงของภาษาค่ะ

วันที่ 3: กิจกรรมทำที่วางตะเกียบโนซาคุ → สวนเทพนิยายทาคาโอกะ → ตลาดฮิมิบังยะไก → หมู่บ้านโกะคะยะมะกัสโชสึคุริ → เดินทางกลับโตเกียว

เช้าวันที่ 3 พวกเราได้ไปเยี่ยมชมโรงงานของ "โนซาคุ" ซึ่งก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1916 และมีประวัติยาวนานกว่า 109 ปี ที่นี่มีชื่อเสียงด้านงานหัตถกรรมที่ทำจากดีบุกและทองเหลือง โดยมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ภาชนะใส่อาหาร ภาชนะสำหรับดื่มสาเก ไปจนถึงของใช้ในบ้าน กระดิ่งลม และแจกันดอกไม้ เหมาะทั้งสำหรับซื้อเป็นของขวัญหรือซื้อไปใช้เองค่ะ นอกจากนั้น เรายังเข้าร่วมกิจกรรมทำที่วางตะเกียบลายซากุระจากดีบุกแท้อีกด้วย ก่อนอื่นก็เริ่มจากการอัดทรายให้แน่นเพื่อสร้างแม่พิมพ์ หลังจากนั้นก็เทดีบุกหลอมละลายลงไป และรอให้เย็นก็จะได้ที่วางตะเกียบแล้วค่ะ ชั้น 2 ของอาคารยังมีนิทรรศการแสดงผลงานหัตถกรรมจากดีบุกและทองเหลืองให้ชมอีกด้วย คุณสามารถสัมผัสถึงความประณีตและเทคนิคของช่างฝีมือญี่ปุ่นได้อย่างลึกซึ้งค่ะ

หลังจากนั้น เราก็เดินทางไปยังสวนเทพนิยายทาคาโอกะ ซึ่งมีรูปปั้นของตัวละครจากการ์ตูนเรื่องโดราเอมอนตั้งอยู่ด้วย ถ้าใครชอบโดราเอมอนละก็ ห้ามพลาดสวนแห่งนี้เลยนะคะ!

หลังจากรับประทานมื้อกลางวันที่ตลาดฮิมิบังยะไกแล้ว เราก็มุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านกัสโชสึคุริที่โกะคะยะมะ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัดโทยามะ บริเวณนี้มีหมู่บ้านกระจายตัวอยู่กว่า 40 แห่ง โดยหมู่บ้านไอโนะคุระกัสโชสึคุริและหมู่บ้านสึงานุมะกัสโชสึคุริ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมของยูเนสโก เช่นเดียวกับหมู่บ้านชิราคาวาโกะกัสโชสึคุริของจังหวัดกิฟุในปี 1995 ค่ะ ที่ทางเข้าหมู่บ้านมีจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นหมู่บ้านกัสโชสึคุริได้ทั่วทั้งหมด ถึงแม้ว่าจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆ ก็ตาม แต่ก็มีที่พักแบบต่างๆ เรียงรายอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านแบบกัสโชสึคุริ หรือออนเซ็นเรียวคัง นอกจากนี้ ยังมีร้านขายของฝากและร้านอาหารที่เสิร์ฟอาหารท้องถิ่นอย่างผักป่าจากภูเขา โซบะ และปลาอิวานะ ทำให้คุณสามารถใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างสบายๆ จนลืมเวลาไปเลยค่ะ

ทริปนี้ปิดท้ายด้วยการขึ้นรถไฟชินคันเซ็นสายโฮคุริคุกลับสู่โตเกียว และร่วมรับประทานอาหารเย็นกับทีมงาน และคุณยามะอุจิ ประธานบริษัท FUN! JAPAN ค่ะ! ระหว่างรับประทานอาหาร ทุกคนได้สนุกสนานไปกับการสนทนาทั้งในภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ และจีน นอกจากทุกคนจะได้แบ่งปันความประทับใจของทริปในครั้งนี้แล้ว ยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อปรับปรุงบริการให้ดียิ่งขึ้นในอนาคตอีกด้วย รอยยิ้มของผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่านทำให้ทีมงาน FUN! JAPAN รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก และเราหวังว่าจะได้มีโอกาสจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนแบบนี้อีกในอนาคตนะคะ


วิธีการเข้าร่วม Visit Japan Campaign

ถึงแม้ว่ากิจกรรม Visit Japan Campaign ในปี 2024 ได้จบลงแล้ว แต่ความทรงจำที่ได้ใช้เวลาร่วมกันตลอด 3 วันจะยังคงตราตรึงในใจอยู่ตลอดไปค่ะ ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม และผู้เข้าร่วมทุกคนที่เดินทางมาไกลเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญในครั้งนี้นะคะ

หากคุณอยากร่วมกิจกรรม Visit Japan Campaign ในครั้งหน้า อย่าลืมสะสม FUN! JAPAN POINT ให้เยอะๆ แล้วคอยติดตามข่าวสารล่าสุดจาก FUN! JAPAN ไว้ให้ดีนะคะ

หากต้องการทราบวิธีการสะสมแต้ม หรือรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ FUN! JAPAN POINT กรุณาคลิกที่ภาพด้านล่างเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง

หัวข้อเรื่อง