ทริปเล่นสกีสามวันบนเอจิโกะ ยูซาว่า
ลิฟต์ขึ้นไปยัง Tenjindaira
เมื่อเริ่มเล่นสกีบนภูเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ บางทีคุณอาจลืมสิ่งต่างๆ รอบตัวไปเรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเมื่อโลดแล่นบนทางหิมะที่คราคร่ำไปด้วยนักสกีมากมาย ยิ่งช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปจนถึงต้นเดือนเมษายนมันก็ยิ่งสนุกและอัดแน่นมากขึ้นอีก อย่างไรก็ตามบบทความนี้จะมาแนะแนวชาวต่างชาติที่สนใจจะมาเล่นสกีทริป 3 วัน ณ เอจิโกะ ยูซาวะ ที่เรากล่าวว่า ‘ชาวต่างชาติ’ เพราะผู้ร่วมทริปของเรามีหนึ่งคนไม่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ดังนั้นเราจึงพยายามที่จะวางแผนท่องเที่ยวให้สะดวกและง่ายต่อคนทุกชาติมากที่สุด นอกจากนี้เรายังแชร์ประสบการณ์ที่คุณจะได้เรียนรู้และช่วยเพิ่มทักษะมากมายให้แก่คุณ
วิธีการเดินทาง
เราได้ใช้ตั๋วรถไฟแบบเหมาจ่ายหรือ JR Tokyo Wide Pass ที่ช่วงก่อนปี 2015 เรียกว่า Kanto Area Pass ซึ่งตั๋วชนิดนี้สามารถขึ้นระบบขนส่งสาธารณะในเครือ JR ได้ไม่จำกัดเป็นเวลา 3 วัน แต่ที่แตกต่างจากตั๋วแบบเก่าก็คือสามารถนั่งไปยังสกีรีสอร์ทที่ชื่อเอจิโกะ ยูซาวะได้ด้วย
ในฤดูหนาวคุณสามารถใช้ตั๋ว JR Pass เข้าไปยัง GALAYuzawa สกีรีสอร์ทที่อยู่ถัดจากสถานีรถไฟฟ้าซินคันเซ็น นั่นทำให้ปัจจุบันนี้มันกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่เพียงเท่านั้นสำหรับผู้ถือบัตร JR Pass ยังได้รับสิทธิ์ซื้อตั๋วเข้าชมพร้อมใช้บริการภายในหนึ่งวัน ราคาพิเศษ 3,000 เยน อย่างไรก็ตามนักสกีฝีมือโปรทั้งหลายคงจะไม่เหมาะกับ GALA Yazawa เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมาใช้บริการ เราแนะนำให้นั่งรถบัสที่เชื่อมต่อกับสกีรีสอร์ทท้องถิ่นอื่นๆ เพื่อเล่นสกีเป็นเวลาสามวันให้ชุ่มฉ่ำหัวใจ
เราอยากเพิ่มความทรงจำอันสุดประทับใจ... หรือไม่ดีก็ไม่รู้ด้วยการนั่งรถบัสเพื่อไปยังป้ายหยุดรถ Doai ซึ่งก่อนหน้าเราได้โทรศัพท์จากเจ้าของที่พักว่ารถไฟท้องถิ่นได้หยุดให้บริการเนื่องจากมีหิมะตกหนัก ดังนั้นหากคุณไม่อยากอารมณ์เสียกับการติดอยู่ที่สถานีรถไฟ คุณควรตรวจเช็คการเดินรถผ่านทางแอพฯ Yahoo Transit ของญี่ปุ่น หรือแอพฯ Navitime
เรานั่งรถบัสแทนรถไฟเนื่องจากมีหิมะตกหนัก
ที่พัก
อย่างที่เราบอกไปข้างว่าบทความนี้จะเป็นการแนะนำชาวต่างชาติที่พูดภาษาอังกฤษ หรือพูดญี่ปุ่นได้เพียงนิดหน่อยเท่านั้น เราจึงเลือกพักที่เทนจินที่ซึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้อย่างครบถ้วน นอกจากนี้ยังมีคอร์สสอนการเล่นสกีกับสโนวบอร์ดเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย
ห้องพักเตียงคู่สไตล์ตะวันตกที่เรานอนค้างคืน (ก่อนหน้าเราจองเป็นห้องสไตล์ญี่ปุ่น)
ที่พักเทนจิน
อาหารเช้าที่เทนจิน
สำหรับใครก็ตามที่จะพาครอบครัวมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่น ที่พักแบบเรียวกังหรือโรงแรมทั่วไปก็สามารถมอบความสุขความสบายได้เป็นอย่างดี ด้วยราคาเพียง 6,000 เยนต่อหนึ่งคืน กรณีที่คุณอยากมาเพื่อเล่นสกีเพียงอย่างเดียวก็ควรเลือกที่พักสไตล์ตะวันตก เพราะจะทำให้คุณรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากกว่าการเข้าพักโรงแรมแบบญี่ปุ่นแท้ๆ หรือที่เรียกว่า ออนเซ็นเรียวกัง โดยที่พักดังกล่าวมีข้อกำหนดห้ามส่งเสียงดัง ทว่าก็มีบรรยากาศสไตล์ญี่ปุ่นให้นักท่องเที่ยวได้พบปะและซึมซับวัฒนธรรม
สกีรีสอร์ท
เราใช้เวลาเล่นสกีอย่างเต็มที่ 2 วันเต็ม โดยเราเริ่มต้นที่โฮไดกิรีสอร์ทที่เหมาะสมกับนักสกีมือใหม่ วันถัดมาเรามุ่งหน้าไปยังเทนจิไดอาระรีสอร์ทอันมีลานสกีกับเส้นทางที่ยากและโหดเหมาะสมกับนักสกีมากประสบการณ์
กระเช้าที่โฮไดกิ
สถานที่ที่กล่าวมาทั้งสองแห่งเราอยากให้นักสกีทั้งหน้าใหม่และมือเก๋าไปลองเล่น เนื่องจากมีผู้คนไม่พลุกพล่านเหมือนกับลานสกีแห่งอื่น โดยเราขอบอกว่าลานสกีที่เทนจินไดอาระนั้นมีทางหิมะสวยงามมากกว่า ไม่เพียงนั้นยังปลอดภัยสำหรับนักสกีหน้าใหม่ หรือถ้าเป็นมือฉมังก็สามารถวาดลวดลายได้เต็มที่ตามใจต้องการ อย่างไรก็ตามที่เทนจินไดอาระจะมีลานกว้างเพื่อให้ผู้เล่นมือใหม่ฝึกซ้อมก่อนที่จะเล่นสกีเต็มที่ได้ ซึ่งจะมีทางลาดยาวมากเป็นเส้นตรงให้คุณสนุกไปกับความเร็วที่ไหลลงมา
สิ่งสุดท้ายที่จะพูดถึงก็คือ ถ้าคุณต้องการเช่าอุปกรณ์สกีหรือเครื่องแต่งกาย คุณก็ควรโทรเช็คหรือสอบถามล่วงหน้าว่ามีสิ่งของไซส์ที่คุณใส่ได้หรือไม่ ยกเว้นของชิ้นเล็กเช่นแว่นตากันหิมะหรือถุงมือเป็นต้น
(Images courtesy of ski resorts)
การฝึกเล่นสกี
มีหนึ่งคนในกลุ่มเราที่ไม่รู้วิธีการเล่นสกีมาก่อน ดังนั้นเขาจึงต้องเรียนรู้พื้นฐานการเล่นสกีตั้งแต่เริ่มต้น โดยข้างๆ ที่พักเทนจินนั้นจะมีโรงเรียนสอนเล่นสกีมีชื่อว่า แคนยอน ซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพราะที่นี่ครูฝึกจะสอนคุณเป็นภาษาอังกฤษให้เข้าใจได้ง่าย ต่างจากโรงเรียนแห่งอื่นที่เน้นสอนเพียงชาวญี่ปุ่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามค่าเล่าเรียนอาจสูงกว่าโรงเรียนทั่วไป และหากคุณต้องการเรียนเป็นการส่วนตัวก็ต้องจ่ายแพงมากคืออยู่ราว 35,000 เยนต่อหนึ่งวันหรือเลือก 4 ชั่วโมงก็ได้
ถ้าหากคุณไม่อยากเสียเงินก้อนโตก็ลองถามนักสกีชาวต่างชาติบริเวณนั้น ให้พวกเขาสอนเทคนิคการเล่นรวมถึงเป็นเพื่อนคู่ซ้อมก็ไม่เสียหาย ถึงอย่างนั้นมันก็อันตรายอยู่ดีเพราะเป็นการสอนบนทางสกีจริงๆ ไม่ได้มีสถานที่ปลอดภัยไว้ให้ทดลองเล่นก่อนลงสนาม
ทางสกีโฮไดกิ