ยินดีต้อนรับสู่ทตโตริ บ้านของ

ลูกแพร์ที่เป็นที่นิยมมากสำหรับเนื้อกรอบและความหวานฉ่ำ! ถ้าคุณชอบทานลูกแพร์ จังหวัดทตโตริ แหล่งผลิตลูกแพร์นิจิสเซกิ ก็เป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดค่ะ ครั้งนี้ฉันอยากจะแนะนำ "พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ" ซึ่งคุณสามารถเรียนรู้เกร็ดน่ารู้เกี่ยวกับลูกแพร์ และ "ซังโคเอ็น" ที่คุณสามารถเพลิดเพลินกับการเก็บลูกแพร์แบบทานได้ไม่อั้นได้ หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเสน่ห์ของลูกแพร์แห่งทตโตริ อ่านต่อให้จบกันนะคะ

ความเป็นมาที่ทำให้ "ลูกแพร์นิจิสเซกิ" ของทตโตริโด่งดัง

ลูกแพร์ที่ปลูกในญี่ปุ่นมีหลากหลายสายพันธุ์ แต่สามารถแบ่งออกกว้าง ๆ ได้เป็น "ลูกแพร์แดง" และ "ลูกแพร์เขียว" ตามสีของเปลือก ฤดูกาลของลูกแพร์จะแตกต่างกันไปตามความหลากหลายและพื้นที่การผลิต ลูกแพร์ที่ถึงฤดูเก็บเกี่ยวเร็วที่สุดจะออกสู่ตลาดในต้นเดือนสิงหาคม ในขณะที่ลูกแพร์ที่เข้าฤดูเก็บเกี่ยวช้าจะออกสู่ตลาดในปลายเดือนพฤศจิกายน คุณอาจเคยได้ยินหรือแม้แต่เคยกินลูกแพร์ “โคซุย” และ “โฮซุย” ซึ่งเป็นตัวแทนของลูกแพร์แดงของญี่ปุ่นมาก่อนค่ะ อย่างไรก็ตาม อันที่จริง สายพันธุ์เหล่านี้ล้วนแล้วแต่สืบทอดสายพันธุ์มาจาก "ลูกแพร์นิจิสเซกิ" (二十世紀梨 / Nijisseki nashi) ซึ่งเป็นลูกแพร์เขียวค่ะ จากมุมมองนี้ อาจกล่าวได้ว่าลูกแพร์นิจิสเซกิเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้และมีความสำคัญต่อการผลิตลูกแพร์ในญี่ปุ่น! และจังหวัดทตโตริก็เป็นผู้ผลิตลูกแพร์นิจิสเซกิอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นค่ะ

ความเป็นมาที่ทำให้ ลูกแพร์นิจิสเซกิ ของทตโตริโด่งดัง

ในปี ค.ศ. 1888 มัตสึโดะ คาคุโนะสุเกะ (松戸覚之助 / MATSUDO Kakunosuke) เด็กหนุ่มที่อาศัยอยู่ในอำเภอมัตสึโดะ จังหวัดชิบะ ได้ค้นพบต้นแพร์ที่กำลังแตกใบอ่อนและได้เลี้ยงดูมันอย่างเอาใจใส่ ส่งผลให้เกิดลูกแพร์ที่เนื้อนุ่มและชุ่มฉ่ำขึ้น เนื่องจากลูกแพร์นี้มีคุณภาพที่เหนือกว่าซึ่งแตกต่างจากพันธุ์ทั่วไป ดร. วาตาเซะ โทราจิโร่ (渡瀬寅次郎) / WATASE Torajiro) ดุษฎีบัณฑิตด้านการเกษตรจึงตัดสินใจตั้งชื่อให้ลูกแพร์นี้ว่า "นิจิสเซกิ" (二十世紀 / Nijisseiki - ศตวรรษที่ 20) ตามความคาดหวังที่ว่า "(มัน)จะกลายเป็นสายพันธุ์ที่เป็นตัวแทนแห่งศตวรรษใหม่ที่จะมาถึงนี้ (ศตวรรษที่ 20)" นี่คือแรงผลักดันให้เกิดลูกแพร์นิจิสเซกิขึ้นค่ะ หลังจากนั้น ด้วยความพยายามของ คิตาวากิ เอจิ (北脇永治 / KITAWAKI Eiji) ชาวไร่ลูกแพร์ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปลูกฝังและเผยแพร่ลูกแพร์นิจิสเซกิให้แพร่หลายไปทั่วประเทศญี่ปุ่น ลูกแพร์นิจิสเซกิก็ได้กลายเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมในจังหวัดทตโตริ นอกจากนี้ เนินลาดชัดในจังหวัดทตโตริยังเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีเหมาะสำหรับการปลูกลูกแพร์นิจิสเซกิซึ่งชอบพื้นลาดชันที่มีการระบายน้ำที่ดีด้วย ด้วยเหตุนี้ หลังจาก 100 ปีแห่งความพยายาม ลูกแพร์นิจิสเซกิก็ได้กลายเป็นผลไม้ที่เป็นตัวแทนของจังหวัดทตโตริไปในที่สุดค่ะ

ลูกแพร์นิจิสเซกิมีความหวานในปริมาณที่กำลังดี เนื้อสัมผัสที่เข้มข้น และความเป็นกรดที่พอเหมาะ ทำให้เกิดความสมดุลที่สมบูรณ์แบบที่จะดึงดูดใจต้อมรับรสของผู้ใหญ่เลยค่ะ เมื่อคุณมาที่จังหวัดทตโตริ อย่าลืมลองทานลูกแพร์นิจิเซกิเมื่อมีโอกาสนะคะ

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่
พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

หากเอาแต่ดูดูการจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์เพียงอย่างเดียว ก็คงจะน่าเบื่ออย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิมีมุมที่ผู้เข้าชมสามารถสัมผัสประสบการณ์จำลองที่หลากหลายได้ สำหรับผู้ที่พาเด็กมาด้วย เราขอแนะนำ “Garden of Wonder” ที่ชั้นสองค่ะ

ที่นี่ ผู้เข้าชมจะรู้สึกเหมือนถูกย่อส่วนลงเมื่อไปผจญภัยไปท่ามกลางแบบจำลองที่มีมาตราส่วนขยายใหญ่ต่าง ๆ ระหว่างการค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่ในสวนผลไม้ลูกแพร์นี้ หลังจากนั้น คุณสามารถไปที่มุม "Growing Pears" และไม่เพียงแค่จะได้เรียนรู้เกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานตลอดทั้งปีสำหรับการปลูกลูกแพร์เท่านั้น แต่ยังได้สัมผัสประสบการณ์จำลองการ "ห่อ" ลูกแพร์ด้วยค่ะ มองแวบแรกอาจดูง่าย แต่เมื่อคุณลองไปทำดูจริง ๆ ก็อาจจะทำได้ไม่ดีเท่าที่คิดไว้ค่ะ!

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

ในทางกลับกัน ที่ "Pear Kitchen Gallery" คุณสามารถลองกินเปรียบเทียบลูกแพร์ได้ถึง 3 ชนิด ทันทีที่คุณใส่เข้าปาก คุณจะได้ลิ้มรสชาติและความต่างของแต่ละชนิดได้อย่างชัดเจน ในมุมนิทรรศการที่ชั้น 1 ซึ่งสร้างขึ้นรอบ ๆ ต้นแพร์นิจิสเซกิยักษ์ "Giant Nijisseiki Pear Tree" คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติการปลูกลูกแพร์นิจิสเซกิ งานศิลปะเกี่ยวกับลูกแพร์ และวัตถุที่เกี่ยวข้องกับลูกแพร์ในโลกได้ ผ่านแผงข้อมูล หุ่นจำลอง และวิดิทัศน์ ซึ่งสามารถเข้าใจได้ง่าย ผู้ที่สนใจลูกแพร์สามารถไปทัศนศึกษาได้ตามอัธยาศัย นอกจากนี้ยังมีร้านกาแฟและร้านค้าพิพิธภัณฑ์ที่ทางเข้าด้วย เมื่อต้องการพักผ่อนสบาย ๆ เราขอแนะนำขนมลูกแพร์ที่สามารถลิ้มลองได้ที่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เท่านั้น หากมีเวลา อย่าลืมแวะไปที่สวนลูกแพร์กลางแจ้ง ที่นี่เป็นที่เดียวที่คุณสามารถชมสภาพแวดล้อมการเพาะปลูกของลูกแพร์พันธุ์ต่าง ๆ ได้ค่ะ

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ: พิพิธภัณฑ์ที่ใครก็สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับลูกแพร์ได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: พิพิธภัณฑ์ลูกแพร์นิจิสเซกิ จังหวัดทตโตริ อาคารนาชิคโกะคัง (鳥取二十世紀梨記念館・なしっこ館 / Tottori Nijisseki Pear Museum - Nashikkokan)
  • ที่ตั้ง: 198-4 Dakyoji-cho, Kurayoshi-shi, Tottori ภายในสวน Kurayoshi Park Square
  • เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
  • การเดินทาง: ขึ้นรถบัสจากสถานีขนส่งหมายเลข 2 ของสถานี Kurayoshi ลงที่ "Kurayoshi Park Square" หรือ "Kurayoshi Park Square North Entrance" แล้วเดินต่ออีก 5 นาที
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: http://1174.sanin.jp/en/

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

สำหรับใครที่อยากลองเก็บลูกแพร์ เราขอแนะนำ "ซังโคเอ็น" (さんこうえん / Sankouen) สวนลูกแพร์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่การก่อตั้งขึ้นมา สวนแห่งก็นี้ได้อุทิศตนเพื่อการเพาะปลูกลูกแพร์นิจิสเซกิ นอกเหนือจากการทำงานอย่างหนักเพื่อปลูกลูกแพร์แล้ว ทางสวนยังได้ศึกษาสภาพที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกลูกแพร์แสนอร่อยอีกด้วย แรงบันดาลใจในการทำงานอย่างหนักคือรอยยิ้มของลูกค้าที่ได้ชิม "ลูกแพร์ที่อร่อยที่สุด" ใครที่เคยไปสักครั้งจะต้องตั้งตารอที่จะได้กลับมาที่ซังโคเอ็นและสัมผัสประสบการณ์การเก็บลูกแพร์ในฤดูเก็บเกี่ยวอีกครั้งอย่างแน่นอน!

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

ที่ซังโคเอ็นมีการปลูกต้นแพร์ 11 ชนิด รวมไปถึงโคซุย ชินคันเซ็น นิจิสเซอิกิ และชินโค กระจายอยู่ใน 20 พื้นที่สวน ลูกแพร์จึงมีมากมายหลากหลาย และเวลาเก็บเกี่ยวก็ต่างกันไป ดังนั้น หากคุณมาเยี่ยมชมระหว่างปลายเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน คุณจะสามารถลิ้มรสลูกแพร์ตามฤดูกาลสักสายพันธุ์ได้อย่างแน่นอน โดยสามารถเพลิดเพลินกับ "การเก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้น" เพียงแค่จ่ายค่าเข้าสวน การเก็บลูกแพร์ก็ง่ายเช่นกัน คุณสามารถเด็ดลูกแพร์ออกจากต้นได้ง่ายๆ โดยบีบเบาๆ ไปทางขวาหรือซ้าย! หลังจากเด็ดลงมาแล้ว ให้ใช้มีดพลาสติกและถังขยะที่คุณได้รับจากสวนตอนที่เข้ามาในสวนเพื่อปอกเปลือกลูกแพร์แล้วกินสด ๆ ค่ะ หลังจากเพลิดเพลินกับประสบการณ์การเก็บลูกแพร์แล้ว คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติของลูกแพร์สดได้อีกด้วย ดังนั้นถ้ามีโอกาสก็ไปลองดูสักครั้งนะคะ

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

ซังโคเอ็น: เก็บลูกแพร์กินได้ไม่อั้นกันที่สวนลูกแพร์

ข้อมูลสถานที่

  • ชื่อสถานที่: ซังโคเอ็น (さんこうえん / Sankouen)
  • ที่ตั้ง: 1973 Yuyama, Fukube-cho, Tottori-shi, Tottori
  • เวลาทำการ: 9:00-17:00 น.
  • ราคา:
    • นักเรียนมัธยมต้นขึ้นไป: 1200 เยน
    • นักเรียนประถมขึ้นไป: 1100 เยน
    • เด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป: 700 เยน
  • การเดินทาง: ประมาณ 5 นาทีโดยรถยนต์หรือแท็กซี่จากเนินทรายทตโตริ
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ: https://www.sankouen.com/

นอกจากเนินทรายแล้ว ทตโตริยังมีของอร่อยมากมาย ด้วยเนื้อสัมผัสที่กรุบกรอบและความหวาน เมื่อคุณได้ลองรับประทานลูกแพร์นี้ คุณจะไม่มีวันลืมเลยค่ะ ครั้งต่อไปที่มาที่จังหวัดทตโตริ ลองไปกันดูนะคะ

หัวข้อเรื่อง