5 ยอดของดังที่ควรไปทานตามร้านอาหารในอาคิตะ
ที่ร้านอาหารในอาคิตะนั้นจะให้บริการอาหารที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรในท้องถิ่นค่ะ ในครั้งนี้เราจะไปรู้จักกับอาหาร 5 อย่างที่แนะนำในบรรดาของอร่อยขึ้นชื่อที่มีมากมายค่ะ
ไก่พื้นเมืองพันธุ์ฮิไน (比内地鶏)
ไก่พื้นเมืองฮิไน (比内地鶏 / Hinai Jidori) เป็นชื่อของไก่พื้นเมืองที่เลี้ยงในจังหวัดอาคิตะ เป็นสายพันธุ์ที่มีลักษณะพิเศษเป็นเนื้อที่ยืดหยุ่น ไขมันที่หวาน และหนังที่หนาค่ะ นอกจากนี้ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสามไก่ที่อร่อยที่สุดแห่งญี่ปุ่นควบตำแหน่งร่วมกับ "ไก่ซัตสึมะ" (薩摩鶏 / Satsumadori) และ "นาโกย่าโคจิน" (名古屋コーチン / Nagoya Cochin) ค่ะ
มีอาหารหลากหลายประเภทที่ใช้ไก่ฮิไน เช่น ไก่ปิ้งยากิโทริ สเต็ก และข้าวหน้าไก่และไข่โอยาโกะด้ง ซึ่งในนั้นเราก็แนะนำ "โอยาโกะด้ง" (親子丼 / Oyakodon) เป็นพิเศษเพราะจะทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับรสชาติที่หลากหลาย ทั้งความเข้มข้นของไข่แดงและรสอุมามิของเนื้อไก่ค่ะ
หากคุณต้องการทานไก่ฮิไน เราขอแนะนำร้าน "อาคิตะฮิไนยะ" (秋田比内や / Akita Hinaiya) และร้านของผู้เพาะเลี้ยงไก่ฮิไนอาคิตะ "ฮอนเกะอาเบะยะ" (秋田比内地鶏生産責任者の店 本家あべや / Honke Abeya) ช่วงราคาอยู่ที่ประมาณ 900-1,000 เยน (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)
คิริตัมโปะ (きりたんぽ)
คิริตันโปะ (きりたんぽ / Kiritanpo) เป็นอาหารท้องถิ่นที่จัดเป็นตัวแทนของจังหวัดอาคิตะซึ่งทำจากข้าวเป็นหลักค่ะ ข้าวขาวที่ปรุงแล้วถูกบดจนได้ที่ในชามบด แล้วนำไปพอกรอบไม้เสียบที่ทำจากไม้ซีดาร์และย่างด้วยไฟถ่าน คล้าย ๆ ข้าวหลามแต่เป็นการเสียบไม้ย่างแทนค่ะ แม้จะมีรสชาติอร่อยทั้งอย่างนั้นโดยไม่ต้องปรุงอะไร แต่วิธีการทานที่แนะนำก็คือ "คิริตัมโปะนาเบะ" (きりたんぽ鍋 / Kiritanpo Nabe หม้อไฟคิริตัมโปะ) ที่คุณสามารถต้มพร้อมกับไก่ฮิไนและผักตามฤดูกาลได้ ถึงแม้ว่าจะสามารถทานได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงฤดูกาลที่ดีที่สุดในการทานก็คือคือตั้งแต่ฤดูใบไม้ร่วงจนถึงฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูกาลเก็บเกี่ยววัตถุดิบที่ใช้พอดีจึงเข้ากับฤดูกาลมากที่สุดค่ะ
หากคุณต้องการทานคิริตัมโปะอันแสนอร่อย แวะไปที่ "คิตะอาคิคลับ" (北秋くらぶ / Kitaaki Club) หรือ "อาคิตะคิริตัมโปะยะ" (秋田きりたんぽ屋 / Akita Kiritanpoya) ค่ะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 1,580-3,500 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)
โยโกเตะยากิโซบะ (横手やきそば)
โยโกเตะยากิโซบะ (横手やきそば / Yokote Yakisoba) เป็นอาหารจำพวกเส้นที่ใช้เส้นหมี่แบบหนาและตรง เครื่องที่ใส่กับเส้นก็คือกะหล่ำปลี หมูสับ ไข่ดาว และผักดองฟูกุจินสะเกะค่ะ รสชาติเป็นสูตรต้นตำหรับเฉพาะตัวของแต่ละร้านโดยใช้ซอส Worcester เป็นรสพื้นฐาน และส่วนใหญ่จะไม่เผ็ดและมีรสชาติอ่อนโยน ยังไงก็ตามโยโกเตะยากิโซบะนั้นถูกทำขึ้นเป็นครั้งแรกในปีค.ศ. 1953 ว่ากันว่ามันเกิดขึ้นระหว่างการคิดค้นเมนูใหม่ที่ปรุงโดยใช้กระทะร้อนเท็ปปันค่ะ
โยโกเตะยากิโซบะมีให้บริการที่ร้านอาหารหลายแห่งในอำเภอโยโกเตะ (横手市 / Yokote-shi) ซึ่งในนั้นเราแนะนำร้าน "กันโซ คามิยะยากิโซบะยะ" (元祖 神谷焼きそば屋 / Ganso Kamiya Yakisoba-ya) และร้าน "คุอิโดราคุ ร้านหลัก" (食い道楽 本店 / Kuidoraku Honten) ราคาอยู่ที่ประมาณ 500 ถึง 1,000 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)
บัตเตอร์โมจิ (バター餅)
บัตเตอร์โมจิ (バター餅 / Butter mochi โมจิเนย) เป็นขนมที่ทำมาจากข้าวและเนย ส่วนผสมก็เรียบง่ายโดยมีข้าว เนย ไข่แดง และน้ำตาลเท่านั้นค่ะ ลักษณะเด่นก็คือความหวานอ่อนโยนและพื้นผิวที่อ่อนนุ่ม แนะนำให้กินโดยไม่ต้องปิ้งค่ะ
สามารถหาซื้อบัตเตอร์โมจิได้ที่โรงแรมและร้านค้าในอำเภอคิตะอาคิตะ (北秋田市 / Kitaakita-shi) ซึ่งร้าน "ชิกิบิคัง" (四季美館 / Shikibikan) และสถานีริมทาง "มิจิโนะเอกิ ทาคาโนสุ" (道の駅たかのす / Michinoeki Takanosu) ก็มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษค่ะ มีบัตเตอร์โมจิหลายประเภทซึ่งเกิดจากการใช้อัตราส่วนของส่วนผสมที่ต่างกัน ดังนั้นอย่าลืมลองเปรียบเทียบรสชาติระหว่างแต่ละแบบดูนะคะ ราคาอยู่ที่ประมาณ 300-600 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนตุลาคม 2019)
ไอศกรีม บาบาเฮระไอซ์ (ババヘラアイス)
บาบาเฮระไอซ์ (ババヘラアイス / Babahera Ice) เป็นไอศครีมที่ประกอบด้วยไอศกรีมรสสตรอเบอร์รี่สีชมพูและไอศกรีมรสกล้วยสีเหลืองในกรวยเดียวกัน คุณยังสามารถทานรสตามฤดูกาลได้ด้วยขึ้นอยู่กับฤดูกาล เช่น เมล่อนและองุ่น ชื่อแปลก ๆ ของบาบาเฮระนี้มาจากการเรียกหญิงชราว่า บาบะ (ババ / Baba) ในแถบอาคิตะ ซึ่งคุณยายที่ใช้ไม้พายโลหะ (ヘラ / Hera) ในการตักไอศกรีมใส่กรวยนั้นก็เป็นที่มาของชื่อนั่นเองค่ะ
สามารถซื้อบาบาเฮระไอซ์ได้ที่ศูนย์การค้าตามพื้นที่ต่าง ๆ ในอาคิตะและที่อาคารสนามบิน Akita ราคาก็สมเหตุสมผลโดยอยู่ที่ประมาณ 300 เยนค่ะ (ข้อมูล ณ เดือนเมษายน 2018)