ในที่สุดก็เก็บเงิน และเตรียมพร้อมไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ละ เย้!
และแล้วก็เข้ามาสู่การเตรียมตัวที่ยากมากอีกอย่างในการไปเที่ยว
นั่นก็คือ...การแพคของ นั่นเอง จะต้องเอรอะไรไปบ้างดีน้า หนังสือนำเที่ยว,
เบอร์โทรติดต่อ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน, และบลาๆ แต่ไม่ว่าจะเอาอะไรไป
6 สิ่งต่อไปนี้
คือสิ่งจำเป็นที่ห้ามลืมเป็นอันขาด
Japan Rail Pass
ตั๋ว Japan Rail Pass ที่สามารถใช้บริการรถไฟของบริษัทเจอาร์ รวมทั้งรถไฟความเร็วสูงชินคันเซน และรถบัส รวมทั้งรถโมโนเรลไปสนามบินฮาเนดะ และเรือเจอร์ เฟอรฺรี่ไปเกาะมิยาจิมะได้แบบอันลิมิเตต ตั๋วนี้สามารถซื้อออนไลน์ได้ หรือจะซื้อผ่านเอเจนซี่ หรือสายการบินก่อนมาเที่ยวญี่ปุ่นก็ได้ค่ะ แต่ต้องไม่ลืมว่าหากเปิดใช้ตั๋วนี้แล้ว จะใช้ได้ในระยะเวลาที่จำกัด ตามประเภทตั๋วนะคะ
หลังจากสั่งซื้อตั๋วแล้ว คุณจะได้รับการคอนเฟิร์มการสั่งซื้อ แล้วจึงนำไปขึ้นตั๋วที่ออฟฟิศของ Japan Rail Pass เมื่อเข้าประเทศญี่ปุ่น ซึ่งออฟฟิศเหล่านี้จะอยู่ในสถานีรถไฟJRใหญ่ๆในประเทศญี่ปุ่นค่ะ
อย่างไรก็ตามการท่องเที่ยวโดยใช้ตั๋ว Japan Rail Pass เป็นเพียงหนึ่งทางเลือกในการท่องเที่ยวญี่ปุ่นได้หลากหลายที่ในเวลาอันสั้นเท่านั้นค่ะ
พาเวอร์อแดปเตอร์
ปลั๊กที่ญี่ปุ่นอาจจะไซส์ไม่เท่ากับในประเทศอื่นๆ โดยปลั๊กของประเทศญี่ปุ่นจะมีลักษณะแบนๆยาวๆ ตามรูปด้านล่างค่ะ
นอกจากนั้น แรงดันไฟฟ้าของที่นี่ คือ 100 โวลต์ซึ่งแตกต่างกับของประเทศอาเซียน อย่างมาเลเซีย อินโดนีเซีย และไทย ที่ใช้แรงดันไฟฟ้า 220 โวลต์ และต่างกับประเทศไต้หวันที่ใช้แรงดันไฟฟ้าที่ 110 โวลต์
ไม่เพียงเท่านั้น ความถี่ไฟฟ้าของแต่ละพื้นที่ในญี่ปุ่นยังแตกต่างกันด้วยค่ะ โดยแถบตะวันออก อย่างเมืองโตเกียว จะอยู่ที่ 50 เฮิรตซ์ ส่วนแถบตะวันตก อย่างเมืองคิวชูจะอยู่ที่ 60 เฮิรตช์ค่ะ
เพราะฉะนั้น อย่าลืมพกอแดปเตอร์ไปเที่ยวญี่ปุ่นกันด้วยนะคะ
หนังสือรวมบทสนทนาเพื่อตัวรอดในญี่ปุ่น
ในขณะที่คนรุ่นใหม่ตามเมืองใหญ่สามารถพูดและเข้าใจภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี แต่คุณไม่อาจวางใจได้ว่าจะมีคนพูดภาษาอังกฤษได้ทั่วไปในญี่ปุ่น โดยเฉพาะหากคุณไปเที่ยวในพื้นที่แถบชนบท
ดังนั้น ก่อนไปญี่ปุ่น แนะนำว่าให้จำประโยคภาษาญี่ปุ่นที่จะเป็นต้องใช้ไว้บ้าง อย่างเช่น “คนนิจิวะ (สวัสดี)” “โอะเนะไงชิมัส (ขอความกรุณาด้วย)” และ “อาริงาโตะ โกะไซมัส (ขอบคุณ)” ถึงจะเป็นคำพูดเล็กๆน้อยๆก็แสดงให้คนญี่ปุ่นเห็นด่าคุณสนใจเกี่ยวกับประเทศเค้า และได้รับรอยยิ้มสวยๆ และความประทับใจจากคนญี่ปุ่นไปเต็มๆค่ะ
นอกจากนั้น อีกประโยคเอาตัวรอดที่ควรจำให้ขึ้นใจก็คือ “สุมิมะเซน โทะอิเระวะ โดะโคะเดสกะ (ขอโทษนะคะ/ครับ ห้องน้ำอยู่ไหนคะ/ครับ)”
เงินสด
แน่นอนว่าทุกคนต้องเอาเงินไปอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนอาจจะไม่ทราบว่า ในหลายๆที่ของญี่ปุ่นยังไม่สามารถใช้บัตรเครดิตได้ โดยเฉพาะตามร้านอาหารเล็กๆ
นอกจากนั้นยังควรเช็คไว้ล่วงหน้าด้วยก่อนค่ะว่าบัตรเอทีเอ็มของเราสามารถเอาไปกดเงินที่ญี่ปุ่นได้รึเปล่า
ส่วนใหญ่แล้วตู้เอทีเอ็มในร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-11จะรับบัตรของธนาคารเครือข่ายค่ะ
ยารักษาโรค
อาจจะดูแปลกๆว่าทำไมต้องเอายาไปด้วยนะ แต่เพื่อกรณีฉุกเฉิน คุณควรพกยาอย่าง ibuprofen หรือยาแก้ท้องเสียติดตัวไว้ด้วยค่ะ ถึงแม้ว่าที่ญี่ปุ่นจะมีร้านขายยาอยู่เต็มไปหมด แต่ว่ายาที่ขายที่ญี่ปุ่นอาจเป็นยาคนละประเภทกันกับที่คุณใช้อยู่ แถมการเช็คส่วนประกอบของยาในภาษาญี่ปุ่นก็อาจจะทำให้เข้าใจคาดเคลื่อนอีกด้วย
โทรศัพท์มือถือที่สามารถใช้ได้ในญี่ปุ่น
เครือข่ายโทรศัพท์ในญี่ปุ่นแตกต่างไปจากประเทศส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงควรเช็คก่อนว่าโทรศัพท์ของคุณสามารถนำไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้รึเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องใช้โทรศัพท์ในการติดต่อกับเพื่อนๆที่มาเที่ยวด้วยกัน หรือเอาไว้คอนเฟิร์มการจองโรงแรม
เครือข่ายในญี่ปุ่นใช้ระบบ CDMA สำหรับข้อความเสียง ซึ่งเป็นระบบเดียวกับที่ใช้ในอเมริกา แคนาดา และอินโดนีเซีย ส่วนข้อมูลจะอยู่บน LTE เนตเวิร์ค เพราะการใช้ข้อความเสียง หรือ ข้อมูลระหว่างประเทศจะมีค่าใช้จ่ายสูง จึงควรเช็คก่อนว่าโทรศัพท์ของคุณสามารถใช้ซิมการ์ดของญี่ปุ่นได้รึเปล่า โดยทั่วไปแล้ว หากโทรศัพท์ของคุณสามารถใช้ได้ในเครือข่ายของญี่ปุ่นแล้ว ก็สามารถใช้ซิมการ์ดของญี่ปุ่นได้ค่ะ
อีกหนึ่งทางเลือกก็คือ บริการเช่าโทรศัพท์รายวัน หรือรายเดือน ราคาต่อวันแตกต่างไปตามบริษัท และวันที่ใช้ แต่ว่าการันตีได้ว่าโทรศัพท์ให้เช่าสามารถใช้ได้ตลอดระยะเวลาที่คุณอยู่ในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเที่ยวญี่ปุ่นอย่างสนุกสนานได้โดยไม่มีสิ่งเหล่านี้ แต่จะเป็นการดีหากพกของเหล่านี้ติดตัวไป เผื่อเวลาจำเป็นต้องใช้จะได้ไม่ต้องไปวิ่งวุ่นหาของจนเสียเวลาเที่ยวนะคะ
ขอให้เดินทางปลอดภัยค่ะ!
Comments